รับความรู้ดี ๆ อัปเดตความรู้เรื่องประกันรถ เคล็ดลับดูแลรถ และสิทธิพิเศษดี ๆ ส่งตรงถึง Inbox ทุกเดือน สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สวัสดีครับ ผมธีร์ นะครับ ก่อนอื่นเลย… ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ หายใจเข้าลึกๆ ผมเข้าใจดีว่าตอนนี้คุณกำลังรู้สึกช็อก สับสน โกรธ และอาจจะทำอะไรไม่ถูกที่รู้ว่า รถมอเตอร์ไซค์หาย ไปจากที่ที่มันควรจะอยู่ ความรู้สึกแบบนี้มันแย่มากๆ ครับ แต่เชื่อพี่นะครับว่าสิ่งสำคัญที่สุดในวินาทีนี้คือ “สติ” เพราะทุกนาทีหลังจากนี้มีค่ามากในการเพิ่มโอกาสติดตามรถคู่ใจของคุณกลับคืนมา หรืออย่างน้อยที่สุด ก็เพื่อจัดการเรื่องเอกสารและประกันให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
บทความนี้ธีร์ในฐานะที่ปรึกษาด้านประกันที่คลุกคลีกับเคส รถหาย มานับไม่ถ้วน จะมาไกด์คุณทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย ว่าคุณต้องทำอะไรบ้าง ขอแค่ตั้งสติ แล้วทำตามไปพร้อมๆ กันนะครับ
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งสติและรวบรวมข้อมูล (ภายใน 15 นาทีแรก)
วินาทีแรกที่รู้ว่ารถหาย ความตื่นตระหนกจะทำให้เราลืมข้อมูลสำคัญไปได้ง่ายๆ ครับ ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือหยุดนิ่งๆ หายใจลึกๆ แล้วเปลี่ยนความตกใจให้เป็นพลังในการรวบรวมข้อมูลให้เร็วที่สุด เพราะข้อมูลเหล่านี้คืออาวุธชิ้นแรกในการตามหารถของคุณ
Checklist ข้อมูลที่ต้องรวบรวมด่วน:
- ภาพถ่ายรถ: ค้นหารูปถ่ายรถของคุณที่ชัดที่สุดจากในมือถือ ทั้งภาพเต็มคันและภาพตำหนิพิเศษ (ถ้ามี) เช่น รอยขีดข่วน สติกเกอร์ หรือของตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร สิ่งเหล่านี้เป็นจุดสังเกตชั้นดี
- เลขทะเบียนรถ: แน่นอนว่าคุณจำได้ แต่ให้เช็กเพื่อความชัวร์อีกครั้ง
- เลขตัวถัง และเลขเครื่องยนต์: ข้อมูลนี้สำคัญมากสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทประกัน โดยปกติจะอยู่ในเล่มทะเบียนรถ หรือเอกสารการซื้อขาย หากเอกสารอยู่ที่บ้าน ให้รีบโทรหาคนที่บ้านให้ถ่ายรูปส่งมาให้ทันที
- ตำแหน่งที่จอดสุดท้าย: ระบุให้ชัดเจนที่สุด เช่น “ลานจอดรถโซน C3 ห้างสรรพสินค้า ABC” หรือ “หน้าบ้านเลขที่ 99/99 ซอยสุขุมวิท 101”
- เวลาที่คาดว่ารถหาย: พยายามลำดับเหตุการณ์ว่าคุณจอดรถไว้ตอนกี่โมง และมาพบว่ารถหายตอนกี่โมง ช่วงเวลาที่แคบลงจะช่วยให้ตำรวจทำงานง่ายขึ้นในการดูกล้องวงจรปิด
- ลักษณะคนร้าย (ถ้าเห็น): หากคุณโชคดี (หรือโชคร้าย) ที่เห็นเหตุการณ์ ให้จดจำลักษณะของคนร้ายให้ได้มากที่สุด เช่น เพศ รูปร่าง การแต่งกาย หรือยานพาหนะที่ใช้
เมื่อมีข้อมูลครบแล้ว เก็บไว้ในมือถือให้พร้อม เราจะไปขั้นตอนต่อไปกันทันทีครับ
ขั้นตอนที่ 2: แจ้งความที่สถานีตำรวจทันที (สำคัญที่สุด)
อย่ารีรอ อย่าคิดว่า “เดี๋ยวค่อยไป” หรือ “ลองหาเองก่อน” นะครับ การ แจ้งความรถหาย ต้องทำทันทีและเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะบันทึกประจำวันจากตำรวจคือเอกสารทางกฎหมายที่จะใช้ยืนยันว่ารถของคุณถูกขโมยไปจริงๆ และเป็นเอกสารหลักในการเดินเรื่องกับไฟแนนซ์และบริษัทประกัน
สิ่งที่ต้องทำ:
- ไปสถานีตำรวจ (สน.) ในท้องที่ที่เกิดเหตุ: ย้ำนะครับว่าต้องเป็น สน. ที่รับผิดชอบพื้นที่ที่รถของคุณหาย เช่น ถ้ารถหายที่ห้างสรรพสินค้าในเขตปทุมวัน ก็ต้องไปแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน การไปผิดที่อาจทำให้เสียเวลาได้ครับ
- แจ้งร้อยเวร: บอกเจ้าหน้าที่ร้อยเวรว่า “มาแจ้งความเรื่องรถมอเตอร์ไซค์หายครับ/ค่ะ” พร้อมให้ข้อมูลทั้งหมดที่คุณรวบรวมมาในขั้นตอนที่ 1 อย่างละเอียด
- เตรียมเอกสารสำคัญ:
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง)
- เล่มทะเบียนรถ (ตัวจริงหรือสำเนาที่ชัดเจน)
- เอกสารการซื้อขาย หรือสัญญาเช่าซื้อจากไฟแนนซ์ (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่เจ้าของรถไม่ได้มาแจ้งความด้วยตัวเอง)
หลังจากแจ้งความเสร็จสิ้น คุณจะได้รับ “ใบบันทึกประจำวัน” และ “หนังสือรับรองกรณีรถยนต์สูญหาย” กลับมา เก็บเอกสารเหล่านี้ไว้ให้ดีที่สุดนะครับ เพราะมันคือหัวใจของการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ประกันมอเตอร์ไซค์
คุ้มครองคุณและทรัพย์สินของคุณจากความเสี่ยงต่างๆ เบี้ยเริ่มต้น 1,400 บาท- จัดซ่อมรถทั้ง 2 ฝ่าย
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ
ขั้นตอนที่ 3: ใช้พลังโซเชียลช่วยตามหาอีกแรง
ในยุคที่ข่าวสารไปไวกว่าจรวด พลังของโซเชียลมีเดียอาจสร้างปาฏิหาริย์ได้ การโพสต์ประกาศ รถมอไซค์หาย ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจมีคนตาดีไปพบเห็นรถของคุณก็เป็นได้
เทคนิคการโพสต์อย่างมีประสิทธิภาพ:
- เลือกรูปภาพที่ชัดเจนที่สุด: ใช้รูปถ่ายรถของคุณเป็นภาพหลัก
- พาดหัวให้น่าสนใจ: เช่น “ด่วน! ช่วยด้วยครับ รถมอเตอร์ไซค์ [ยี่ห้อ/รุ่น/สี] ทะเบียน [เลขทะเบียน] หายจาก [สถานที่] วันที่ [วันที่] เวลาประมาณ [เวลา]”
- ให้ข้อมูลสำคัญครบถ้วน: ใส่รายละเอียดรถ, ตำหนิพิเศษ, สถานที่และช่วงเวลาที่หาย
- ใส่เบอร์ติดต่อกลับ: ให้เบอร์โทรศัพท์ที่คุณสะดวกรับสายตลอดเวลา
- แชร์ไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้อง: เช่น กลุ่มของคนในพื้นที่ที่คุณอาศัย, กลุ่มคนใช้รถรุ่นเดียวกับคุณ, หรือเพจดังต่างๆ เช่น จส.100, สวพ.FM91
- คำเตือนสำคัญ: จงมีสติและระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสติดต่อเข้ามาหลอกลวงว่าเจอรถแล้วและขอให้โอนเงินค่าไถ่หรือค่าดำเนินการไปให้ก่อน อย่าโอนเงินเด็ดขาด หากมีคนติดต่อมาว่าเจอรถ ให้แจ้งเขาว่าให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีโดยตรง
แจ้งสายด่วนรถหายและกระจายข่าว
- โทรสายด่วนรถหาย 1192 ของศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมยานยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลและช่วยประสานงาน
- กระจายข่าว: แจ้งข่าวในช่องทางต่างๆ เช่น กลุ่มโซเชียลมีเดียในพื้นที่, ศูนย์วิทยุจราจรต่างๆ (เช่น จส.100 โทร 1137, สวพ.91 โทร 1677)
4. ติดต่อกรมการขนส่งทางบก (เพื่อแจ้งหยุดใช้รถ)
ควรไปดำเนินการแจ้งระงับการใช้รถที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งในจังหวัดที่รถจดทะเบียนไว้ เพื่อป้องกันการนำรถไปก่ออาชญากรรม หรือถูกสวมทะเบียน โดยคุณจะต้องเตรียม:
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มเขียว)
- สำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี (ใบแจ้งความ) ที่ระบุวันที่รถสูญหาย หากคุณไม่แจ้งหยุดใช้รถ และไม่ชำระภาษีรถตามกำหนด ทะเบียนรถอาจถูกระงับโดยอัตโนมัติเมื่อครบ 3 ปี และคุณอาจต้องเสียภาษีย้อนหลัง
ขั้นตอนที่ 5: “รถโดนขโมย” ต้องรีบแจ้งไฟแนนซ์และบริษัทประกัน
เมื่อได้เอกสารจากตำรวจแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องทำทันทีคือการโทรศัพท์แจ้งบริษัทไฟแนนซ์ (กรณีรถยังผ่อนไม่หมด) และบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคุณ
ทำไมต้องรีบแจ้ง?
- สำหรับไฟแนนซ์: เพื่อให้ไฟแนนซ์รับทราบเรื่องและอาจพิจารณาระงับการเรียกเก็บค่างวดชั่วคราวในระหว่างการดำเนินคดี ที่สำคัญคือเพื่อเริ่มกระบวนการจัดการทางบัญชีหากรถของคุณทำประกันรถหายไว้
- สำหรับบริษัทประกัน: เพื่อเป็นการเปิดเรื่องเคลมประกันกรณี รถโดนขโมย อย่างเป็นทางการ บริษัทประกันจะแนะนำขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ต่อไป ซึ่งยิ่งแจ้งเร็วยิ่งดีต่อกระบวนการอนุมัติสินไหมทดแทน
สิ่งที่ต้องทำ:
- ค้นหาเบอร์ Call Center ของไฟแนนซ์และบริษัทประกันของคุณ
- โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ แจ้งเลขทะเบียนรถ และเลขที่กรมธรรม์
- สอบถามขั้นตอนและลิสต์เอกสารที่ต้องใช้ส่งให้บริษัทต่อไป ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เอกสารชุดเดียวกับที่ยื่นให้ตำรวจนั่นแหละครับ
ติดตามความคืบหน้าและเตรียมเอกสารสำหรับอนาคต
หลังจากทำครบทุกขั้นตอนแล้ว ที่เหลือคือการติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
- ติดตามคดีกับตำรวจ: หลังจากแจ้งความไปแล้ว 2-3 วัน ลองโทรศัพท์หรือเข้าไปพบร้อยเวรเจ้าของคดีเพื่อสอบถามความคืบหน้า การติดตามอย่างสุภาพจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้
- จัดการเรื่องเอกสารกับประกัน: รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่บริษัทประกันต้องการและนำส่งให้เร็วที่สุด เพื่อให้กระบวนการพิจารณาสินไหมทดแทน (เงินชดเชย) เริ่มต้นได้
- ทำใจและเข้าใจความเป็นจริง: ธีร์ต้องพูดตามตรงว่าโอกาสที่จะได้รถคืนนั้นมี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการทำตามขั้นตอนทั้งหมดอย่างถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อปกป้องสิทธิ์ของเราในเรื่องการชดเชยจากประกันและป้องกันไม่ให้คนร้ายนำรถเราไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้เราในอนาคต
บทสรุป
การที่ รถมอเตอร์ไซค์หาย เป็นฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว การมีสติและรู้ว่าต้องทำอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด ทบทวนอีกครั้งนะครับ:
1. ตั้งสติรวบรวมข้อมูล
2. แจ้งความทันที
3. แจ้งไฟแนนซ์/ประกัน
4. ใช้โซเชียลช่วยตาม
5. ติดตามเรื่องอย่างสม่ำเสมอ
ธีร์ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญสถานการณ์นี้อยู่นะครับ แม้จะเหนื่อยและท้อ แต่การทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามขั้นตอน จะช่วยให้คุณผ่านเรื่องร้ายๆ นี้ไปได้ด้วยปัญหาน้อยที่สุดครับ