ประกันคุ้มครองโรคร้าย

CI Extra Care

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 2,837 บาท ต่อปี

  • คุ้มครองโรคร้ายแรงสูงสุด : 5,000,000 บาท
  • เสียชีวิตคุ้มครองสูงสุด : 100,000 บาท
  • คุ้มครอง: 8กลุ่มโรคร้าย 108 โรคร้าย
  • ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน : สูงสุดวันละ 10,000 บาท
ดูรายละเอียด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันสุขภาพ

OPD คืออะไร?

OPD ย่อมาจาก Out-Patient Department หมายถึง ผู้ป่วยนอก ซึ่งหมายถึงผู้ป่วยที่เข้าไปรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนอนพักที่โรงพยาบาล สามารถกลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านได้ โดยส่วนมากอาการป่วยของผู้ป่วยนอกจะไม่รุนแรงมากนัก เช่น ไข้หวัด แพ้อากาศ ไอ หรือหัวแตก เย็บแผลไม่กี่เข็ม แต่แพทย์ลงความเห็นว่ากลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ก็นับเป็นผู้ป่วยนอกทั้งหมด บางคนอาจจะเรียกว่าหาหมอรับยากลับบ้าน ก็คือ OPD เช่นกัน

IPD หมายถึง "Inpatient Department" ในภาษาไทยหมายถึง "แผนกผู้ป่วยใน" นั่นคือแผนกที่ให้บริการดูแลและรักษาผู้ป่วยที่ต้องนอนรอค้างคืนในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพที่จำเป็นต้องรับการรักษาเชิงลึกหรือต้องให้บริการเฉพาะทาง เช่น การผ่าตัด, การรักษาโรคร้ายแรง, หรือการกู้ชีวิต ใน IPD ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์และพยาบาลตลอดเวลา รวมถึงการให้ยาและการดูแลเฉพาะทางที่ต้องการ โดยผู้ป่วยจะต้องพักอยู่ในตึกหรือห้องที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยในระหว่างรักษา

ระยะเวลารอคอย (Waiting Period) คือ ระยะเวลาที่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลจากประกันสุขภาพได้ แม้ว่าจะเจ็บป่วยหรือเป็นโรคตามเงื่อนไขความคุ้มครองก็ตาม ระยะเวลารอคอยมักเป็นจำนวนวัน เช่น 30 วัน 60 วัน 90 วัน หรือ 120 วัน จะแตกต่างกันไปตามประเภทของประกันสุขภาพและเงื่อนไขความคุ้มครอง เช่น ประกันสุขภาพโรคทั่วไป มักจะมีระยะเวลารอคอย 30 วัน สำหรับโรคร้ายแรง มักจะมีระยะเวลารอคอย 90 วัน หรือมากกว่านั้น

จะทำได้หรือไม่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทประกัน โดยที่ต้องแถลงข้อมูลสุขภาพตามความจริงทั้งหมด จากนั้นบริษัทจะพิจารณาเป็นกรณีไป ซึ่งอาจมีผลลัพธ์ 3 รูปแบบ คือ:

  1. รับประกัน โดยอาจมีข้อยกเว้นที่ไม่คุ้มครองโรคประจำตัวที่เป็นอยู่และโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้อง
  2. รับประกัน แต่อาจขอเพิ่มเบี้ยประกันสูงกว่าปกติ
  3. ปฏิเสธการรับประกัน

TISCO Insure ดำเนินงานโดยบริษัทในกลุ่มทิสโก้ (เลขที่ใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต : ช00006/2556, เลขที่ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย : ว00006/2556) ซึ่งไม่มีบริษัทประกันภัยในเครือ เป็นจุดแข็งที่ทำให้เราสามารถคัดสรร ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ของแต่ละบริษัทประกันภัยมานำเสนอท่าน ถึงแม้ว่าบริษัทประกันชั้นนำแต่ละบริษัท ทั้งด้านประกันภัยและประกันชีวิต จะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้หลากหลาย แต่ข้อเท็จจริงคือ บริษัทประกันแต่ละแห่งมีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน และมีนโนบายที่แตกต่าง ด้วยเหตุนี้เองเราจึง อาสาที่จะช่วยท่านดูแล และเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อท่าน

1. มีโอกาสในการเลือกข้อเสนอมากกว่า เพราะโบรกเกอร์มีเบี้ยประกันให้เปรียบเทียบหลายบริษัท และหลายราคาก่อนตัดสินใจทำประกัน

2. มีที่ปรึกษาในการเคลม หรือการเรียกร้องผลประโยชน์ต่างๆ จากบริษัทประกันภัยในกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเคลม

3. ได้ราคาเบี้ยประกันที่คุ้มค่าและมีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลาย เพราะมีโบรกเกอร์หลายแห่ง จึงเกิดการแข่งขันกัน ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น

ประกันสุขภาพเป็นบริการทางการเงินที่คุณจ่ายเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกัน เพื่อให้บริษัทช่วยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลแทนคุณตามวงเงินและเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้

  • ข้อแตกต่างหลักคือ "ทางเลือก" และ "ความสะดวกสบาย"
    • สิทธิบัตรทอง / ประกันสังคม: เป็นสวัสดิการพื้นฐานจากรัฐ ให้การรักษาตามสิทธิ์ในโรงพยาบาลที่กำหนด อาจต้องรอคิวและมีข้อจำกัดเรื่องห้องพักหรือยาบางชนิด
    • ประกันสุขภาพเอกชน: เปรียบเสมือน "ทางด่วน" สู่การรักษา คุณสามารถเลือกโรงพยาบาลเอกชนในเครือข่ายได้เอง และมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นกว่า

จำเป็นเพราะสวัสดิการของบริษัทส่วนใหญ่มักมีวงเงินจำกัด ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับโรคร้ายแรงหรือการป่วยหนักที่อาจต้องผ่าตัด นอกจากนี้ หากคุณลาออกหรือเกษียณ สวัสดิการนั้นก็จะสิ้นสุดลง การมีประกันสุขภาพส่วนตัวไว้จะช่วยอุดช่องว่างและสร้างความคุ้มครองต่อเนื่องในระยะยาวได้

  • Deductible (ความรับผิดส่วนแรก): คือจำนวนเงินค่ารักษาที่คุณต้องจ่ายเองก่อนในแต่ละปี ก่อนที่ประกันจะเริ่มเข้ามาคุ้มครองส่วนที่เหลือ
  • Co-payment (การจ่ายร่วม): คือการที่คุณร่วมจ่ายค่ารักษาเป็นเปอร์เซ็นต์กับบริษัทประกัน เช่น 80/20 หมายถึง ประกันจ่าย 80% คุณจ่าย 20%

อ่านข้อมูล Co-Payment ฉบับเต็มได้ที่นี่

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย

หากคุณกำลังมองหาแบบผลิตภัณฑ์ประกัน หรือยังไม่พบประกันที่ต้องการ พูดคุยกับเรา เพื่อให้เราได้หาประกันที่ตอบโจทย์ หรือให้ความคุ้มครองอย่างเหมาะสมกับคุณ (จันทร์ - เสาร์ 08.00 - 19.00 น.)
ปรึกษาผ่าน LINE ปรึกษาผ่าน Call Center