ประกันรถยนต์ ต่างจาก ประกันอะไหล่รถยนต์ อย่างไร

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการใช้รถยนต์แค่ทำประกันภัยรถยนต์เท่านั้นก็เพียงพอ เพื่อคุ้มครองการขับขี่เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ หรือเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันมีค่าใช้จ่ายในการซ่อม

อย่างไรก็ตามเมื่อรถเสียหรือรถพัง ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมาจากอุบัติเหตุเสมอไป ความเสียหาย ชำรุดของรถสามารถเกิดได้จากการใช้งานตามระยะเวลาและตามเลขไมล์ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องยนต์กลไกล ระบบเกียร์ ระบบขับเคลื่อน ระบบช่วงล่าง ฯลฯ ที่ต้องเสียค่าซ่อมแพงๆ ในกรณีนำรถไปจัดซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ ประกันคุณภาพอะไหล่รถยนต์ เป็นอีกทางเลือกที่สร้างความอุ่นใจและมั่นใจในการใช้รถของคุณ

ข้อแตกต่างระหว่าง ประกันภัยรถยนต์ กับ ประกันอะไหล่รถยนต์

ประกันภัยรถยนต์ คือ การทำประกันภัยให้กับรถ เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ทางบริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมให้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ ทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ และจะให้ความคุ้มครองเฉพาะในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่รวมถึงความเสียหายของรถที่เกิดจากการใช้งาน

ประกันคุณภาพอะไหล่รถยนต์ คือ โปรแกรมคุ้มครองอุปกรณ์ ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ที่ชำรุดหรือเสียหายจากการใช้งาน ตามระยะเวลา และตามเลขไมล์ โดยผู้รับประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมทั้งค่าอะไหล่และค่าแรง ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

ประกันทั้ง 2 แบบนี้แม้จะต่างแต่ก็มีความจำเป็นทั้งคู่ เพราะอนาคตเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นอะไรขึ้น ทั้งอุบัติเหตุ และอะไหล่ชำรุดตามสภาพการใช้งาน เงื่อนไขหลักๆของประกันภัยทั้ง 2 แบบนี้ คือ ซ่อมรถของคุณให้กลับมาคงสู่สภาพเดิมเหมือนครั้งก่อนเกิดอุบัติเหตุ หรือก่อนการชำรุดเสียหาย

สำหรับประกันคุณภาพอะไหล่รถยนต์ ปัจจุบันทิสโก้อินชัวร์ ได้มีการนำมาเสนอให้กับท่านที่สนใจโปรแกรมดังกล่าวด้วยนะครับ โดยรถยนต์ต้องมีเงื่อนไขและรายละเอียดดังนี้

เงื่อนไขของรถยนต์ที่สามารถเข้าเงื่อนไขประกันอะไหล่รถยนต์

1. 1. อายุรถยนต์ไม่เกิน 15 ปี นับจากวันจดทะเบียน และระยะทางวิ่งต้องไม่เกิน 200,000 กิโลเมตร
   2. รถยนต์ส่วนบุคคล
   3. รถยนต์ผลิตในประเทศไทย
   4. รถยนต์นำเข้าโดยผู้ผลิต เช่น Honda Freed, Toyota Avanza, Innova, Subaru XV
   5. ไม่รับรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานทางเลือก รถยนต์ Hybrid, Plug in Hybridและ EV
   6. ไม่รับรถยนต์นำเข้าโดยผู้จำหน่ายอิสระ