เช็กภาษีค้างชำระ ให้ชัวร์ก่อนโดนปรับ! พร้อมข้อควรระวังที่หน้าเว็บไม่เคยบอกคุณ

เคยไหมครับ? ยื่นภาษีเสร็จไปแล้วแต่ใจยังตุ้มๆ ต่อมๆ หรือบางทีงานยุ่งจนลืมไปเลยว่ากดจ่ายตังค์ไปหรือยัง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนได้รับ “หนังสือแจ้งเตือน” จากกรมสรรพากร พร้อมกับยอดหนี้ที่บวก “เงินเพิ่ม” (ดอกเบี้ย) เข้าไปแล้ว!

เพื่อความสบายใจของชาวออฟฟิศ วันนี้เราจะพาไปดู วิธีตรวจสอบสถานะภาษีของตัวเอง แบบเรียลไทม์ เช็กให้ชัวร์ว่าเรามี “ภาษีค้างชำระ” หลงเหลืออยู่หรือไม่ ทำง่ายๆ ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้เลยครับ

 

 

วิธีเช็กภาษีค้างชำระผ่านระบบ E-Filing (ทีละขั้นตอน)

วิธีที่แม่นยำที่สุดคือการดูผ่านระบบยื่นภาษีออนไลน์ของกรมสรรพากรครับ ทำตามนี้ได้เลย:

1. เข้าเว็บไซต์: ไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร efiling.rd.go.th

2. เข้าสู่ระบบ: คลิกที่ปุ่ม “ยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต” แล้วล็อกอินด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน (ชุดเดียวกับที่ใช้ยื่นภาษี)

3. เลือกเมนู: เมื่อเข้ามาแล้ว ให้มองหาเมนูที่ชื่อว่า “ตรวจสอบผลการยื่นแบบ”

4. ดูสถานะ: ระบบจะแสดงประวัติการยื่นภาษีของเรา ให้สังเกตปีภาษีที่เราต้องการเช็ก แล้วดูที่ช่อง “สถานะ”

แปลรหัส “สถานะ” สรรพากรบอกอะไรเรา?

เมื่อกดเข้ามาดูแล้ว คุณจะเจอข้อความสถานะต่างๆ นี่คือความหมายที่คุณต้องรู้:

• ✅ ยื่นแบบแล้ว / ชำระภาษีแล้ว: ปลอดภัย 100% คุณทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว

• ✅ คืนภาษี: ข่าวดี! สรรพากรกำลังดำเนินการคืนเงินภาษีให้คุณ

• ⚠️ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ: สรรพากรได้รับเอกสารแล้ว แต่อาจกำลังรีเช็กข้อมูล (ช่วงนี้หมั่นเข้ามาดูบ่อยๆ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอเอกสารเพิ่ม)

• ❌ ค้างชำระภาษี / ชำระภาษีไม่ครบถ้วน: (อันตราย!) แปลว่าคุณมียอดภาษีที่ต้องจ่าย แต่ยังไม่ได้จ่าย หรือจ่ายไม่ครบ ให้รีบดำเนินการทันที

เจอยอดค้างชำระ ต้องทำยังไง?

ไม่ต้องตกใจครับ (แต่ต้องรีบ) หากระบบขึ้นว่ามีภาษีต้องชำระ ให้ทำตามนี้:

1. คลิกที่รายการนั้นเพื่อดูรายละเอียด

2. พิมพ์ “ชุดชำระเงิน” (Pay-In Slip) หรือ QR Code ออกมา

3. สแกนจ่ายผ่านแอปธนาคาร (Mobile Banking) ได้ทันที หรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต/ATM ตามช่องทางที่สะดวก

แต่….ระวังกับดัก ทำไมเช็กหน้าเว็บแล้ว “ไม่มียอดค้าง” แต่อาจยังไม่รอด

ตรงนี้สำคัญมากครับ การที่คุณเข้าไปดูในระบบ E-Filing แล้วไม่เจอรายการ “ค้างชำระภาษี” ไม่ได้การันตีว่าคุณไม่มีหนี้ภาษีเสมอไป เนื่องจากข้อจำกัด 2 ข้อนี้:

1. ระบบแสดงผลตาม “สิ่งที่เรายื่นไป” เท่านั้น

ระบบหน้าเว็บไซต์ E-Filing ทำหน้าที่แสดงสถานะของ “แบบภาษีที่เราเป็นคนกรอกส่งไปเอง” เท่านั้นครับ

• สมมติว่า: คุณมีรายได้จากงานฟรีแลนซ์ แต่คุณ “ลืมกรอก” ลงไปในแบบภาษี

• ผลที่หน้าเว็บ: ระบบก็จะคำนวณภาษีเฉพาะเงินเดือนที่คุณกรอก และอาจขึ้นว่า “ชำระครบแล้ว”

• ความจริง: สรรพากรอาจตรวจสอบเจอรายได้ฟรีแลนซ์ก้อนนั้นทีหลัง และส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับได้อยู่ดีครับ

2. ดูประวัติย้อนหลังได้จำกัด

โดยปกติระบบหน้าเว็บจะเน้นแสดงผลสถานะของ “ปีภาษีปัจจุบัน” หรือย้อนหลังได้เพียงระยะสั้นๆ (ประมาณ 1 ปี หรือตามที่ระบบเปิดให้ดูในช่วงนั้น) หากคุณมีภาษีค้างจ่ายจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน หรือเป็นเคสที่กำลังโดนตรวจสอบเงียบๆ ข้อมูลเหล่านี้มักจะไม่โชว์หราอยู่บนหน้า Dashboard ครับ

 

อยากรู้ยอดหนี้เป๊ะๆ ต้องทำยังไง? (วิธีที่ชัวร์ที่สุด)

หากคุณไม่มั่นใจว่า “เอ๊ะ! ปีก่อนๆ ฉันลืมยื่นรายได้ตัวไหนไปหรือเปล่า?” หรือได้รับจดหมายเตือนแต่ทำหายไปแล้ว วิธีเดียวที่จะเช็กยอดค้างชำระที่ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด คือการ “คุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรง” ผ่าน 2 ช่องทางนี้ครับ:

1. ไปที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ (Area Revenue Office):

   • นำบัตรประชาชนไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ฝ่ายสำรวจและติดตามหนี้ภาษีอากร เจ้าหน้าที่จะสามารถดึงข้อมูลในระบบภายใน (Internal System) ซึ่งละเอียดกว่าหน้าเว็บ และแจ้งยอดหนี้รวมเบี้ยปรับเงินเพิ่ม (ถ้ามี) ให้คุณทราบได้ทันที

2. โทรสอบถาม Call Center 1161:

• • สอบถามข้อมูลเบื้องต้น หรือขอเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่ที่คุณสังกัดอยู่ เพื่อโทรเช็กข้อมูลโดยละเอียดกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพอร์ตของคุณโดยตรง

ส่งท้าย การเช็กหน้าเว็บช่วยให้เราสบายใจได้ในระดับหนึ่ง (สำหรับการยื่นปกติ) แต่ถ้าใครรู้ตัวว่ามีรายได้หลายทาง หรือเคย “ลืมยื่น” ในอดีต แนะนำให้ยอมเสียเวลาโทรหาพี่สรรพากรหรือแวะไปที่สำนักงานฯ เพื่อความชัวร์ดีกว่าครับ เจ็บแต่จบ ดีกว่าปล่อยไว้นานจนดอกเบี้ยบานตะไทนะครับ!