ซื้อประกันออนไลน์

Back to top

ความหมายวันคริสต์มาส

รู้ลึกประวัติ “วันคริสต์มาส” และความหมายของขวัญ-สัญลักษณ์

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ เชื่อว่ามนุษย์ออฟฟิศหลายคนคงกำลังนับถอยหลังรอวันหยุดยาว หรือเตรียมตัวจับฉลากของขวัญกันอยู่ใช่ไหมครับ? บรรยากาศแห่งความสุขแบบนี้หนีไม่พ้น “วันคริสต์มาส” (Christmas Day) เทศกาลที่ทั่วโลกรอคอย

แต่เคยสงสัยไหมว่า นอกจากปาร์ตี้และการแลกของขวัญแล้ว จริงๆ แล้ววันคริสต์มาสมีประวัติความเป็นมาอย่างไร? และของตกแต่งบนโต๊ะทำงานที่เราเห็นกันจนชินตามีความหมายแฝงอะไรบ้าง? วันนี้เราสรุปมาให้แบบเน้นเนื้อๆ อ่านจบปุ๊บ รู้ลึกปั๊บครับ

ย้อนรอยประวัติ “วันคริสต์มาส” ฉบับเข้าใจง่าย

วันคริสต์มาส ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ คำว่า “Christmas” มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Cristes Maesse แปลว่า “การบูชาพระคริสต์”

แม้ว่าในคัมภีร์ไบเบิลจะไม่ได้ระบุวันที่แน่ชัด แต่ชาวคริสต์ได้เลือกวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมฉลอง ซึ่งในสมัยโบราณตรงกับเทศกาลบูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ของชาวโรมัน เพื่อเป็นการเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมเดิมมาสู่ความเชื่อใหม่นั่นเองครับ

ปัจจุบัน คริสต์มาสไม่ได้เป็นเพียงวันสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่กลายเป็น “เทศกาลแห่งการให้” และการรวมตัวของครอบครัว (รวมถึงปาร์ตี้บริษัท!) ของผู้คนทั่วโลก

 

ความหมายวันคริสต์มาส

 

ความหมายของ “สัญลักษณ์วันคริสต์มาส” ที่คุณอาจไม่เคยรู้

การประดับออฟฟิศให้เข้าธีมไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ของแต่ละชิ้นมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่:

1. ต้นคริสต์มาส (Christmas Tree)

ต้นสนที่เขียวชอุ่มตลอดปี สื่อถึง “ชีวิตนิรันดร์” ของพระเยซูเจ้า นอกจากนี้ รูปทรงสามเหลี่ยมของต้นสนยังเปรียบเสมือนพระตรีเอกภาพ (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) อีกด้วย การตั้งต้นคริสต์มาสในออฟฟิศจึงเหมือนการนำพลังชีวิตและความสดชื่นเข้ามาสู่ที่ทำงานครับ

2. ซานตาคลอส (Santa Claus)

ชายร่างท้วมใจดีในชุดแดง มีต้นกำเนิดมาจาก “นักบุญนิโคลัส” (Saint Nicholas) บาทหลวงผู้ใจบุญในอดีตที่ชอบแอบหย่อนเหรียญเงินช่วยเหลือคนยากจนผ่านทางปล่องไฟ จึงเป็นที่มาของการแขวนถุงเท้าและการให้ของขวัญเพื่อแบ่งปันความสุขแก่ผู้อื่น

3. พวงมาลัยคริสต์มาส (Christmas Wreath)

มักแขวนไว้หน้าประตู ทำจากใบไม้สีเขียวขดเป็นวงกลม สื่อถึง “ความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด” ของพระเจ้า เพราะวงกลมไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบ

4. ดาว (The Star)

ดาวดวงใหญ่ที่ประดับยอดต้นคริสต์มาส เป็นตัวแทนของดวงดาวที่นำทางโหราจารย์ทั้ง 3 คนไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซู สื่อถึง “แสงสว่างและการเริ่มต้นใหม่” เหมาะมากสำหรับใครที่กำลังวางแผน New Year’s Resolution ในปีหน้า

5. กระดิ่ง (Bells)

เสียงกระดิ่งคือสัญลักษณ์ของการ “ประกาศข่าวดี” และความรื่นเริง เพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของเทศกาลแห่งความสุข

รู้หรือไม่? คริสต์มาสเข้ามาในไทยตั้งแต่เมื่อไหร่

หลายคนอาจคิดว่าเราเพิ่งมาฮิตจัดไฟคริสต์มาสกันเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ แต่จริงๆ แล้ว กลิ่นอายของคริสต์มาสเดินทางมาถึงสยามประเทศตั้งแต่สมัย กรุงศรีอยุธยา แล้วครับ!

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ศาสนาคริสต์เริ่มเข้ามาในไทยพร้อมกับมิชชันนารีชาวโปรตุเกส ราวช่วงพุทธศตวรรษที่ 21 (ตรงกับสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2) ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเกิดขึ้น

แต่ถ้าพูดถึงการเฉลิมฉลองแบบ “รื่นเริง” อย่างที่เราคุ้นเคย (ต้นคริสต์มาส ซานตาคลอส งานเลี้ยง) เริ่มแพร่หลายจริงๆ ในสมัย รัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5 ครับ โดยเริ่มจากในกลุ่มชาวต่างชาติและข้าราชบริพาร ก่อนจะค่อยๆ ขยายวงกว้างจนกลายเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่คนไทยทุกศาสนาร่วมฉลองกันได้อย่างกลมกลืนในปัจจุบัน สมกับเป็นเมืองไทยเมืองยิ้มที่เปิดรับความสุขจากทุกวัฒนธรรมครับ

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ “วันคริสต์มาส” (FAQ)

Q: วันคริสต์มาส (25 ธ.ค.) เป็นวันหยุดราชการในไทยไหม? A: ไม่เป็นครับ สำหรับประเทศไทย วันคริสต์มาสถือเป็นวันทำงานปกติ ยกเว้นบางบริษัทข้ามชาติ (International Company) หรือโรงเรียนนานาชาติที่อาจกำหนดให้เป็นวันหยุดพิเศษ

Q: ทำไมธีมสีของคริสต์มาสต้องเป็น “แดง-เขียว”? A: สีเขียว มาจากต้นสนที่สื่อถึงชีวิตนิรันดร์ ส่วนสีแดง มาจากสีของผลโฮลลี่ (Holly berries) หรือเลือดของพระเยซูที่ถ่ายทอดความรักต่อมนุษย์ แต่ในปัจจุบันก็มีการตีความสีแดงว่าเป็นความอบอุ่นและความตื่นเต้นของเทศกาล

Q: “Xmas” เขียนย่อแบบนี้ผิดไหม? A: ไม่ผิดครับ ตัวอักษร “X” ในภาษากรีกคือ “Chi” ซึ่งเป็นตัวอักษรแรกของชื่อพระคริสต์ (Christos) การเขียน Xmas จึงเป็นคำย่อที่มีรากศัพท์ถูกต้องและนิยมใช้กันทั่วโลก

Q: ไอเดียของขวัญจับฉลากงบ 500 บาท สำหรับชาวออฟฟิศ ซื้ออะไรดี? A: แนะนำของที่ใช้ได้จริงและดูดี เช่น แก้วเก็บความเย็น (Tumbler), หมอนรองคอเพื่อสุขภาพ, เทียนหอมอโรมาผ่อนคลายความเครียด, หรือ Gift Voucher กาแฟแบรนด์ดัง รับรองคนรับได้ใช้แน่นอน

ส่งท้าย วันคริสต์มาส จึงไม่ได้มีแค่ซานต้าหรือของขวัญ แต่เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ทบทวนสิ่งดีๆ ที่ผ่านมาตลอดปีและส่งต่อความรักให้คนรอบข้าง สำหรับชาวออฟฟิศที่เหนื่อยมาทั้งปี ขอให้คริสต์มาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสุขและพลังใจในการทำงานต่อไปนะครับ

Merry Christmas & Happy New Year!

แหล่งอ้างอิงจาก

sarakadeelite , History.com

ลงทะเบียนตอนนี้ เพื่อไม่ให้พลาดเนื้อหาสำคัญ และข่าวสารอัปเดตก่อนใคร