รับความรู้ดี ๆ อัปเดตความรู้เรื่องประกันรถ เคล็ดลับดูแลรถ และสิทธิพิเศษดี ๆ ส่งตรงถึง Inbox ทุกเดือน สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
เคยไหม? ขับรถอยู่ดีๆ ก็มีใบสั่งจราจรส่งมาถึงบ้าน หรือโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเขียนใบสั่งแปะไว้ที่หน้ารถ ความรู้สึกกังวลและคำถามมากมายคงเกิดขึ้นทันที “ต้องจ่ายที่ไหน?” “เช็คออนไลน์ได้ไหม?” และที่สำคัญที่สุด “ถ้าเราไม่จ่ายค่าปรับ จะเกิดอะไรขึ้น?”
บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับใบสั่งจราจร อ้างอิงข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้คุณเข้าใจกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การตรวจสอบ การชำระเงิน ไปจนถึงผลกระทบทางกฎหมายหากคุณเพิกเฉยต่อใบสั่ง
รู้จักประเภทของใบสั่งจราจรในปัจจุบัน
เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ปัจจุบันใบสั่งจราจรที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่ 3 รูปแบบหลักๆ ตามข้อมูลจากสำนักหอสมุดศาลยุติธรรมและแนวทางปฏิบัติจริง:
- ใบสั่งแบบเขียนด้วยมือ: เป็นรูปแบบดั้งเดิมที่เจ้าหน้าที่จะเขียนและยื่นให้ผู้ขับขี่โดยตรง หรือแปะไว้ที่หน้ารถในกรณีที่รถจอดในที่ห้ามจอดและไม่พบตัวผู้ขับขี่
- ใบสั่งส่งทางไปรษณีย์: ใบสั่งประเภทนี้มาจากการตรวจจับของกล้องวงจรปิด เช่น กล้องจับความเร็วเกินกำหนด หรือกล้องจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ระบบจะส่งใบสั่งพร้อมหลักฐานภาพถ่ายไปยังที่อยู่ของเจ้าของรถ
- ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket): เป็นการออกใบสั่งผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งข้อมูลจะถูกส่งเข้าระบบออนไลน์ทันที ทำให้สามารถตรวจสอบได้รวดเร็ว
วิธีเช็คใบสั่งจราจรออนไลน์ ง่ายๆ ในไม่กี่คลิก
หมดสมัยที่ต้องคอยลุ้นว่ามีใบสั่งค้างชำระหรือไม่ ปัจจุบันคุณสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ผ่านระบบ Police Ticket Management (PTM) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นช่องทางที่เชื่อถือได้และสะดวกที่สุด
ขั้นตอนการตรวจสอบ:
- เข้าไปที่เว็บไซต์ ptm.police.go.th/eTicket/
- เลือกลงทะเบียนด้วยข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน, เลขใบขับขี่ หรือเลขทะเบียนรถ
- หลังจากเข้าสู่ระบบ คุณจะสามารถมองเห็นรายการใบสั่งที่ยังไม่ได้ชำระทั้งหมด พร้อมดูรายละเอียดและหลักฐาน (ในกรณีใบสั่งจากกล้อง) ได้ทันที
การหมั่นเข้าไปตรวจสอบเป็นประจำ (เช่น ทุก 1-2 เดือน) เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการลืมจ่ายค่าปรับ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการต่อภาษีรถยนต์ได้
ช่องทางการจ่ายค่าปรับใบสั่งจราจร มีที่ไหนบ้าง?
จากข้อมูลที่รวบรวมโดย Sanook และช่องทางประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ คุณสามารถเลือกชำระค่าปรับได้หลายช่องทางตามความสะดวก ดังนี้:
-
ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ:
- Krungthai NEXT: สะดวกและรวดเร็วที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการธนาคารกรุงไทย
- เป๋าตัง: สามารถชำระผ่าน Wallet ได้
-
จุดบริการต่างๆ:
- สถานีตำรวจทุกแห่ง: สามารถไปชำระได้โดยตรงกับเจ้าหน้าที่
- ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ
- เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
- ตู้บุญเติม: มองหาเมนูชำระบิล/ค่าปรับจราจร (อาจมีค่าบริการเพิ่มเติม)
ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งจราจร จะเกิดอะไรขึ้น?
นี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ผู้ใช้รถทุกคนต้องทราบ จากข้อมูลของ Thai PBS ซึ่งยืนยันตรงกับมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก การไม่ชำระค่าปรับตามกำหนดเวลา จะมีผลกระทบโดยตรงกับการ “ต่อภาษีรถยนต์ประจำปี”
กระบวนการเมื่อคุณไม่จ่ายค่าปรับ:
- รับใบสั่ง: เมื่อคุณได้รับใบสั่ง จะมีระยะเวลาที่กำหนดให้ชำระ
- ออกใบเตือน: หากคุณไม่ชำระตามกำหนด ระบบจะออก “ใบเตือน” (หนังสือแจ้งเตือนการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง) และส่งไปยังที่อยู่ของคุณ ให้เวลาชำระอีก 15 วัน
- ส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบก: หากยังเพิกเฉยอีก ข้อมูลของคุณจะถูกส่งเข้าระบบออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก (ขส.)
- ถูกอายัดเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี: เมื่อคุณไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้คุณทราบว่ามีค่าปรับค้างชำระ คุณสามารถเลือกจ่ายค่าปรับพร้อมกับภาษี ณ จุดนั้นได้เลย
- แต่ถ้าคุณเลือกที่จะจ่ายเฉพาะค่าภาษี คุณจะได้รับหลักฐานการเสียภาษีชั่วคราวที่มีอายุ 30 วันเท่านั้น และจะ ยังไม่ได้รับป้ายวงกลม (เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี) ตัวจริง
- ถูกอายัดทะเบียน: หากคุณไม่นำใบเสร็จค่าปรับไปยื่นเพื่อรับป้ายวงกลมตัวจริงภายใน 30 วัน ทะเบียนรถของคุณจะถูก “อายัด” ทันที ซึ่งหมายความว่ารถคันนั้นจะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ เช่น การโอน, การเปลี่ยนสี, หรือการแจ้งย้าย จนกว่าจะชำระค่าปรับให้เรียบร้อย และการใช้รถที่ไม่มีป้ายวงกลมถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับเพิ่มเติม
มาตรการนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
หากไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา สามารถทำอะไรได้บ้าง?
คุณมีสิทธิ์โต้แย้งข้อกล่าวหาได้ หากมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ระบุในใบสั่ง โดยให้ดำเนินการภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับใบสั่ง โดยติดต่อไปยังสถานีตำรวจที่ออกใบสั่งเพื่อเข้าสู่กระบวนการชี้แจงและพิสูจน์หลักฐานต่อไป
บทสรุป
การจัดการใบสั่งจราจรในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ด้วยระบบออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถ ตรวจสอบและชำระค่าปรับได้อย่างสะดวก สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าเพิกเฉยต่อใบสั่งที่ได้รับ เพราะผลกระทบที่ตามมาโดยเฉพาะการถูกอายัดทะเบียนนั้นสร้างความยุ่งยากและเสียเวลามากกว่าการชำระค่าปรับให้เรียบร้อยตั้งแต่แรก
การขับขี่อย่างมีวินัยและปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่เพียงแต่ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่ยังช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องค่าปรับอีกด้วย ขับขี่ปลอดภัย มีวินัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทางกันนะครับ