คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญที่ประกอบด้วยถึง 30% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย มีหน้าที่สร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความสมบูรณ์ให้กับอวัยวะหลายระบบ เช่น ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น รวมถึงหลอดเลือดและกระดูกอ่อน ร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้เองผ่านเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งใช้กรดอะมิโนจากอาหารหรือที่ร่างกายสังเคราะห์ได้ เช่น ไลซีน และโพรลีน โดยมีวิตามินซีเป็นตัวช่วยสำคัญในการสังเคราะห์โครงสร้างของคอลลาเจน
ปัจจุบันมีคอลลาเจนอยู่ประมาณ 28 ชนิด และอาจมีมากขึ้นในอนาคต แต่ชนิดที่พบมากที่สุดและมีบทบาทหลักในร่างกายคือชนิดที่ 1, 2 และ 3 โดยเฉพาะชนิดที่ 1 ซึ่งพบได้ในผิวหนัง เส้นเอ็น และกระดูก ซึ่งจะเริ่มลดลงเมื่ออายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ส่งผลต่อความเสื่อมของผิวและข้อต่อต่างๆ
ประเภทของคอลลาเจน
ปัจจุบันมีคอลลาเจนที่ค้นพบแล้วมากกว่า 28 ชนิด แต่ชนิดที่พบมากในร่างกายมนุษย์ ได้แก่:
ประเภทคอลลาเจน |
แหล่งที่พบ |
ประโยชน์หลัก |
Type I |
ผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น |
เพิ่มความแข็งแรงของผิวหนัง |
Type II |
กระดูกอ่อน, ข้อต่อ |
บำรุงข้อต่อ ลดการเสื่อม |
Type III |
หลอดเลือด, ผิวหนัง |
เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว |
Type V |
ผม, เนื้อเยื่อรก |
เกี่ยวข้องกับสุขภาพผมและดวงตา |

แหล่งของคอลลาเจน จากอาหารธรรมชาติถึงอาหารเสริม
คอลลาเจนมีอยู่ในอาหารธรรมชาติมากมาย เช่น น้ำต้มกระดูกหมู เนื้อสัตว์ ปลา หนังไก่ และไข่ขาว ซึ่งให้กรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสังเคราะห์คอลลาเจนเองได้ นอกจากนี้ วิตามินซีจากผักและผลไม้ก็เป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ในทางกลับกัน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทคอลลาเจนในท้องตลาดมีหลากหลายแหล่งที่มา เช่น คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก วัว ไก่ หรือไข่ โดยแต่ละแหล่งจะให้คอลลาเจนชนิดต่างกัน เช่น ปลามักให้คอลลาเจนชนิดที่ 2 วัวให้ชนิดที่ 1 และ 3 ขณะที่ไก่หรือไข่ให้ชนิดที่ 2 และ 5 นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างในรูปแบบ เช่น ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) ซึ่งย่อยง่าย ดูดซึมได้ดีที่สุด เจลาตินที่ดูดซึมได้น้อยกว่า และคอลลาเจนแบบสดที่ยังไม่ผ่านการย่อยซึ่งย่อยยากที่สุด
ขอโฆษณาหน่อยนะประกันสุขภาพ My Care Smart ดีอย่างไร
- วงเงินรักษาสูงสุด 7 แสนบาท
- ไม่บอกเลิกสัญญาแม้จะเคลมเยอะ
- ค่าใช้จ่ายในการรักษา จ่ายตามจริง
- ค่าเบี้ยคงที่ตามช่วงอายุที่กำหนด
- ไม่เคลมมีเงินคืนสูงสุด 10%
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคอลลาเจนเสริม
❌ คอลลาเจนช่วยให้ผิวขาว
❌ กินแล้วช่วยเสริมให้ผิวและกระดูกได้ทันที
❌ รักษาโรคเกี่ยวกับกระดูก
ในความเป็นจริง เมื่อเรากินคอลลาเจนเข้าไป มันไม่ได้ถูกดูดซึมในรูปแบบ “คอลลาเจน” โดยตรง แต่จะถูกย่อยกลายเป็นกรดอะมิโนขนาดเล็ก แล้วร่างกายจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะนำกรดอะมิโนเหล่านั้นไปสร้างอะไร อาจกลายเป็นคอลลาเจน หรือกลายเป็นโปรตีนชนิดอื่นตามที่ร่างกายต้องการ
จึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าการกินคอลลาเจนจะไปเสริมผิวหรือข้อต่อโดยตรง บางคนอาจรู้สึกว่าผิวดีขึ้นหรือข้อปวดน้อยลง แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจนมากพอที่สนับสนุนว่าเกิดจากการเสริมคอลลาเจนจริงๆ นอกจากนี้ ปริมาณที่รับประทานเข้าไป แม้จะสูงถึง 10 กรัมต่อวัน ก็ยังไม่แน่ว่าร่างกายจะนำไปใช้ในส่วนที่ผู้บริโภคต้องการเสมอไป
ข้อควรระวังในการเลือกคอลลาเจนเสริม
แม้ว่าคอลลาเจนเสริมจะมีขายทั่วไป แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกยี่ห้อจะปลอดภัยหรือมีคุณภาพเท่ากัน สิ่งที่ควรระวังคือ:
- ปริมาณการบริโภคที่เหมาะสม: โดยทั่วไปแนะนำให้บริโภคประมาณ 2.5 – 10 กรัมต่อวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับการทดลองทางการแพทย์ที่พบผลลัพธ์ในระยะเวลา 3–6 เดือน
- ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการควบคุมของ อย.: อาหารเสริมไม่ถือเป็น “ยา” จึงไม่ถูกควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด อาจมีการปลอมปน หรือปริมาณคอลลาเจนไม่ตรงตามฉลาก
- องค์กรอิสระที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการตรวจสอบจากองค์กรอิสระ (Third-party tested) อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะ ไตวาย, ตับวายรุนแรง, หรือ ระบบย่อยอาหารไม่ดี ควรหลีกเลี่ยง เพราะการรับโปรตีนเกินไปอาจทำให้เกิดภาระต่ออวัยวะดังกล่าว และหากคุณมี ประวัติแพ้อาหาร เช่น แพ้ปลา ไข่ หรือเนื้อวัว ก็ควรตรวจสอบที่มาของคอลลาเจนให้ชัดเจนก่อนบริโภค
ทางเลือกธรรมชาติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
หากไม่มั่นใจในอาหารเสริมหรือไม่อยากเสี่ยงกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ยังมีวิธีทางธรรมชาติที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เช่นกัน:
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจนใหม่ในร่างกาย โดยเฉพาะในข้อต่อและผิวหนัง
- การรับประทานอาหารที่มีกรดอะมิโนและวิตามินซีสูง เช่น น้ำต้มกระดูกหมู ไข่ ผักผลไม้รสเปรี้ยว จะช่วยเสริมวัตถุดิบให้ร่างกายนำไปสร้างคอลลาเจนเองได้
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายคอลลาเจน เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และเผชิญแสงแดดโดยไม่มีการป้องกัน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเร่งให้คอลลาเจนในร่างกายเสื่อมลงเร็วขึ้น
การดูแลจากภายในด้วยวิธีธรรมชาติจึงเป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัย และช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลอย่างยั่งยืน
จุดแตกต่างหลักระหว่าง “คอลลาเจน” กับ “เวย์โปรตีน” หรือ “โปรตีนจากอาหาร”
ประเด็น | คอลลาเจน | เวย์โปรตีน / โปรตีนจากอาหาร |
---|---|---|
โปรตีนชนิดไหน? | คอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้าง (structural protein) | เวย์เป็นโปรตีนสมบูรณ์ (complete protein) |
กรดอะมิโนเด่น | Glycine, Proline, Hydroxyproline (ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ, ผิว, ข้อต่อ) | Leucine, Isoleucine, Valine (ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ) |
เป้าหมายหลัก | ผิว ข้อต่อ เอ็น กระดูก | เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูหลังออกกำลังกาย |
ดูดซึมไวไหม? | ถ้าเป็นไฮโดรไลซ์ ดูดซึมเร็ว | ดูดซึมเร็วมากเช่นกัน |
โปรตีนสมบูรณ์ไหม? | ❌ ขาดกรดอะมิโนบางชนิด | ✅ สมบูรณ์ |
ใช้ทดแทนกันได้ไหม? | ❌ ไม่ควรใช้แทนโปรตีนหลัก | ✅ เป็นแหล่งโปรตีนหลักไ |
สรุป: คอลลาเจนเสริม จำเป็นจริงหรือแค่เทรนด์สุขภาพ?
คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญที่มีบทบาทหลายด้านในร่างกาย และมีความจริงว่าเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนลดลง แต่การเลือกจะรับประทาน “คอลลาเจนเสริม” หรือไม่ ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งความต้องการส่วนตัว สุขภาพพื้นฐาน และความเข้าใจที่ถูกต้อง
แม้มีบางคนรู้สึกว่าผิวดีขึ้น ข้อไม่ปวดหลังรับประทาน แต่ผลลัพธ์เหล่านี้ยังไม่ชัดเจนในทางการแพทย์ และไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้ผลเหมือนกัน ดังนั้น หากคุณเลือกกินคอลลาเจนเสริม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบ และรู้ว่ามันไม่ได้เป็น “ยาวิเศษ” ที่แก้ปัญหาทุกอย่างได้
ในทางกลับกัน การดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารครบหมู่ ออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างหาก คือพื้นฐานสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพผิวและข้อต่อที่แท้จริง