ประกันรถ อีซูซุ Isuzu
คุ้มครองรถเรา ชนหนักชนเบา รถหาย ไฟไหม้ และคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิตร่างกาย ของคู่กรณี ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด มีประกันรถยนต์ติดรถไว้อุ่นใจกว่า
ติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านไลน์คุ้มครองรถเรา ชนหนักชนเบา รถหาย ไฟไหม้ และคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิตร่างกาย ของคู่กรณี ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด มีประกันรถยนต์ติดรถไว้อุ่นใจกว่า
ติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านไลน์TISCOinsure ชัวร์กับประกันที่ใช่
คุ้มครองความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับรถ ไม่ว่าจะเป็นรถชน ไฟไหม่ น้ำท่วม คุ้มครองครบ ตอบโจทย์ทั้งซ่อมศูนย์ และ ซ่อมอู่ ให้ทุนประกันสูง เคลมได้แม้จะไม่มีคู่กรณี
จะคุ้มครองเฉพาะตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองรถของเรา จะคุ้มครองเฉพาะรถหาย ไฟไหม้
คุ้มครองตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกาย ของคู่กรณี คุ้มครองรถเราจากกรณีรถชนรถ ต้องมีคู่กรณีทุกครั้ง และคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้
จะคุ้มครองเฉพาะตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองรถของเรา หากเราเป็นฝ่ายผิดต้องซ่อมรถตัวเราเอง
คุ้มครองตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของคู่กรณี คุ้มครองรถเราเฉพาะกรณีรถชนรถและมีคู่กรณีเท่านั้น
รถยนต์อีซูซุ มีประวัติความเป็นมามายาวนานกว่า 100 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์สำหรับเรือในปี ค.ศ. 1916 โดยนาย Toyoda Kiichiro ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งมีความหลงใหลในเครื่องยนต์มาตั้งแต่เด็ก และมีความฝันที่จะผลิตเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดน้ำมัน อีซูซุมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยในปี ค.ศ. 1964 และยังคงเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน
ศูนย์รถยนต์อีซูซุประเทศไทยมีทั้งหมด 255 สาขา แบ่งเป็น 245 สาขาที่เป็นโชว์รูม และ 10 สาขาที่เป็นศูนย์บริการเฉพาะทาง โดยกระจายอยู่ทั่วประเทศ ดังนี้
คือ การซ่อมรถที่ศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ โดยการซ่อมห้างจะรับเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุไม่เกินประมาณ 5-7 ปี การซ่อมที่ศูนย์บริการมักจะมีคุณภาพที่น่าเชื่อ เรื่องความรับผิดชอบ มาตฐานการซ่อม อะไหล่แท้
คือ ซ่อมรถที่อู่ซ่อมรถทั่วไปซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะการรถที่อายุเกินกว่าเกณฑ์ที่ซ่อมศูนย์จะรับประกัน การซ่อมอู่มีข้อดีที่ มีอู่หลากหลายแห่ง และค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าซ่อมห้าง
คุ้มครองรถยนต์ของคุณไม่ว่าใครจะเป็นผู้ขับก็ตาม ซึ่งบริษัทประกันจะเรียกเก็บจากคู่กรณีเอง
ยังไม่ต้องตกใจว่าจะไม่คุ้มครอง บริษัทประกันยังคุ้มครองรถของเราและคู่กรณีด้วยเหมือนกันเพียงแต่ต้องจ่ายค่า “ค่าผิดเงื่อนไข” ในการซ่อมรถหรือทรัพย์สินคู่กรณี 2,000 บาท และรถของเรา 6,000 บาท
ค่ารับผิดส่วนแรก หรือ “Deductible” ในประกันภัย คือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบก่อน จากนั้นบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบสำหรับค่าใช้จ่ายที่เหลือเกินจากค่ารับผิดส่วนแรกนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย
ตัวอย่างเช่น หากค่ารับผิดส่วนแรกของคุณคือ 5,000 บาท มีค่าซ่อมรถจากอุบัติเหตุ 20,000 บาท คุณจะต้องจ่าย 5,000 บาทเอง และบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยส่วนที่เหลือ 15,000 บาท
ทุนประกัน คือ มูลค่าความเสียหายสูงสุดที่บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบให้กับผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย เช่น เสียชีวิต ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูญเสียอวัยวะ สูญเสียสายตา สูญเสียการได้ยิน อุบัติเหตุรถชน ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ เป็นต้น
เบี้ยประกัน คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อซื้อการคุ้มครองประกันภัย เบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ทุนประกัน ความคุ้มครองที่เลือก ประวัติการขับขี่ ยี่ห้อรถ รุ่นรถ เป็นต้น
ดังนั้น ทุนประกันจึงเปรียบเสมือน “ความคุ้มครอง” ที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับจากบริษัทประกันภัย ส่วนเบี้ยประกันเปรียบเสมือน “ราคา” ที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับความคุ้มครองนั้น
รถอายุเกิน 7 ปี โดยทั่วไปแล้วบริษัทประกันภัยจะรับทำประกันชั้น 2, 2+,3, 3+ แนะนำว่าหากยังต้องการความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ควรทำประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ไว้จะดีกว่า
ทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกัน หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามจำนวนที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วตนเป็นฝ่ายผิดหรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้
Excess ค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคบังคับ จะเสียต่อเมื่อไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ 1,000 – 2,000 บาท
Deductible ค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคสมัครใจ เสียต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด เริ่มต้นที่ 1,000 บาท