ค่าขาดประโยชน์เป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทน อยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ซึ่งค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถนี้เป็นสิทธิ์ของผู้เอาประกันภัยที่บริษัทประกันภัยไม่ค่อยบอกให้ผู้เอาประกันรู้ ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายถูกเราสามารถเรียกร้องส่วนนี้ได้จากบริษัทประกันของคู่กรณี
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ได้เงินเท่าไหร่
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ กำหนดอัตราขั้นต่ำไว้โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ดังนี้
- รถยนต์ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง รวมคนขับ เคลมได้อย่างน้อย 500 บาท / จำนวนวันที่รถซ่อม
- รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ไม่เกิน 7 ที่นั่ง รวมคนขับ เคลมได้อย่างน้อย 700 บาท / จำนวนวันที่รถซ่อม
- รถยนต์ทุกประเภทแบบเกิน 7 ที่นั่ง เคลมได้อย่างน้อย 1,000 บาท / จำนวนวันที่รถซ่อม
เอกสารที่ใช้ประกอบการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ มีอะไรบ้าง
- ใบนำรถยนต์เข้าจัดซ่อม – ใบรับรถยนต์
- สำเนาการจดทะเบียนรถ
- เอกสารประกอบการใช้รถยนต์แต่ละวัน (ถ้ามี)
- ใบเสร็จค่าเช่ารถ (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชน
- ใบเคลม
ตัวอย่างการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
สมมติว่า คุณขับรถส่วนตัวไปทำงานทุกวัน ในวันหนึ่งคุณเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด คุณแจ้งอุบัติเหตุต่อบริษัทประกันภัยของคู่กรณี และบริษัทประกันภัยของคู่กรณียอมรับว่าฝ่ายของตนเป็นฝ่ายผิด คุณจึงมีสิทธิเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
ในกรณีนี้ คุณจะต้องเก็บรวบรวมเอกสารต่างๆ ประกอบการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ดังนี้
- ใบนำรถยนต์เข้าจัดซ่อม – ใบรับรถยนต์
- สำเนาการจดทะเบียนรถ
- เอกสารประกอบการใช้รถยนต์แต่ละวัน (ถ้ามี)
- ใบเสร็จค่าเช่ารถ (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชน
- ใบเคลม
เมื่อคุณรวบรวมเอกสารครบถ้วนแล้ว คุณจะต้องยื่นเอกสารทั้งหมดให้กับบริษัทประกันภัยของคู่กรณี โดยบริษัทประกันภัยจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 15 วันทำการ จากนั้นจะแจ้งผลการอนุมัติให้ทราบ หากบริษัทประกันภัยอนุมัติการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ คุณจะได้รับเงินชดเชยค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ในอัตราขั้นต่ำ 500 บาท / จำนวนวันที่รถซ่อม
สรุป
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เป็นสิทธิ์ของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ สามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีได้ โดยศึกษาเงื่อนไขและเอกสารที่ใช้ประกอบการเรียกร้องให้ครบถ้วน เพื่อจะได้สิทธิประโยชน์สูงสุด