รับความรู้ดี ๆ อัปเดตความรู้เรื่องประกันรถ เคล็ดลับดูแลรถ และสิทธิพิเศษดี ๆ ส่งตรงถึง Inbox ทุกเดือน สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
หนึ่งในหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถยนต์ทุกคนคือการ “ต่อภาษีรถยนต์ประจำปี” แต่ก่อนจะถึงขั้นตอนนี้ คำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถมาหลายปีคือ “รถยนต์กี่ปีต้องตรวจสภาพ?” เพื่อให้การต่อภาษีเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกกฎหมาย
บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุดจาก กรมการขนส่งทางบก มาสรุปให้เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมและไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป
สรุปให้ชัด! อายุรถที่ต้องเข้ารับการตรวจสภาพก่อนเสียภาษี
กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดหลักเกณฑ์อายุของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ต้องเข้ารับการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนยื่นชำระภาษีประจำปีไว้ดังนี้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง, รถกระบะ 4 ประตู) มีอายุใช้งานครบ 7 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) มีอายุใช้งานครบ 7 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ, รถกระบะมีแค็บ) มีอายุใช้งานครบ 7 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
- รถจักรยานยนต์ มีอายุใช้งานครบ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
วิธีการนับอายุรถ: ให้นับจาก “วันที่จดทะเบียนครั้งแรก” ที่ระบุในเล่มทะเบียนรถ ไปจนถึง “วันที่สิ้นสุดอายุภาษีประจำปี” (วันที่ครบกำหนดเสียภาษี)
ตัวอย่าง: หากรถยนต์ของคุณจดทะเบียนครั้งแรกวันที่ 1 สิงหาคม 2561 รถจะครบกำหนดต้องตรวจสภาพครั้งแรกเพื่อต่อภาษีประจำปี 2568
ทำไมรถยนต์ต้องตรวจสภาพ?
การตรวจสภาพรถไม่ได้เป็นเพียงข้อบังคับทางกฎหมาย แต่ยังมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อ:
- ความปลอดภัยในการขับขี่: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบสำคัญของรถ เช่น ระบบเบรก, ระบบบังคับเลี้ยว, และไฟส่องสว่าง ยังทำงานได้อย่างสมบูรณ์และปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทาง
- ลดปัญหามลพิษ: มีการตรวจวัดค่าควันดำและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากท่อไอเสีย เพื่อควบคุมมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5
- เป็นเอกสารประกอบการต่อภาษี: ใบรับรองการตรวจสภาพเป็นเอกสารจำเป็นสำหรับรถที่มีอายุเข้าเกณฑ์ เพื่อใช้ยื่นต่อภาษีรถยนต์ประจำปี
ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และตรวจที่ไหน?
การเตรียมตัวไปตรวจสภาพรถนั้นง่ายและไม่ซับซ้อน
- เอกสารที่ต้องใช้: สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มจริง) หรือสำเนาก็ได้
- สถานที่ตรวจสภาพ: สามารถนำรถเข้ารับการตรวจสภาพได้ที่ กรมขนส่ง หรือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีสัญลักษณ์แสดงชัดเจนอยู่ทั่วประเทศ
ตรวจสภาพที่กรมขนส่ง กับ ตรอ. ต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่าควรนำรถไปตรวจที่สำนักงานขนส่งโดยตรง หรือไปที่ ตรอ. ดี คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเงื่อนไขของรถ ดังนี้
สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.):
- เหมาะสำหรับ: การตรวจสภาพรถเพื่อต่อภาษีประจำปีตามปกติ สำหรับรถยนต์อายุเกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์อายุเกิน 5 ปี
- จุดเด่น: สะดวก รวดเร็ว มีจำนวนมากและหาได้ง่ายใกล้บ้าน เป็นทางเลือกหลักสำหรับเจ้าของรถส่วนใหญ่
สำนักงานขนส่ง:
- เหมาะสำหรับ: กรณีที่ซับซ้อนกว่าการตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีทั่วไป เช่น
- รถที่มีการดัดแปลงสภาพ แก้ไขตัวถังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งที่แตกต่างไปจากที่จดทะเบียนไว้
- รถที่ขาดการต่อภาษีเกิน 1 ปีขึ้นไป
- รถที่ต้องแจ้งเปลี่ยนสี, เปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือแจ้งย้าย
- รถที่เจ้าของต้องการโอนกรรมสิทธิ์
- จุดเด่น: เป็นหน่วยงานราชการที่สามารถอนุมัติการเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางทะเบียนของรถได้โดยตรง
สรุปง่ายๆ: หากคุณต้องการตรวจสภาพรถเพื่อต่อภาษีประจำปีตามปกติ ให้ไปที่ ตรอ. จะสะดวกที่สุด แต่หากรถของคุณมีเงื่อนไขพิเศษหรือต้องทำธุรกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับทะเบียนรถ ให้ไปที่ สำนักงานขนส่ง ครับ
ค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถ (อัปเดตล่าสุด)
อัตราค่าบริการตรวจสภาพรถที่กำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก มีดังนี้
- รถจักรยานยนต์: 60 บาท/คัน
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม: 200 บาท/คัน
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,000 กิโลกรัม: 300 บาท/คัน
หากรถตรวจสภาพไม่ผ่าน ต้องทำอย่างไร?
ในกรณีที่รถของคุณมีข้อบกพร่องและตรวจสภาพไม่ผ่าน ทาง ตรอ. จะออกใบแจ้งผลให้เจ้าของรถนำรถไปแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นให้เรียบร้อยภายใน 15 วัน หลังจากนั้นจึงนำรถกลับไปตรวจใหม่ที่ ตรอ. เดิม ซึ่งจะเสียค่าบริการตรวจใหม่ในอัตราครึ่งหนึ่งของค่าบริการปกติ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: รถติดแก๊ส LPG/CNG ต้องตรวจสภาพเหมือนกันไหม? A: เหมือนกันครับ คือเมื่อรถมีอายุครบ 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถยนต์ประจำปีที่ ตรอ. แต่เพิ่มเติมคือต้องมีใบรับรองการตรวจและทดสอบถังแก๊สจากผู้ตรวจที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกแนบไปด้วย
Q: สามารถต่อภาษีล่วงหน้าได้นานแค่ไหน? A: สามารถต่อภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน ก่อนวันที่ภาษีจะหมดอายุ
Q: หากไม่นำรถไปตรวจสภาพ จะสามารถต่อภาษีได้หรือไม่? A: ไม่ได้ครับ สำหรับรถที่อายุเข้าเกณฑ์ หากไม่มีใบรับรองการตรวจสภาพจาก ตรอ. จะไม่สามารถดำเนินการชำระภาษีรถยนต์ประจำปีได้ และหากปล่อยให้ภาษีขาดเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับการใช้งาน
สรุป
การตรวจสภาพรถยนต์ตามกำหนดอายุการใช้งานเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของรถทุกคนต้องปฏิบัติ โดยรถยนต์ส่วนใหญ่จะเริ่มตรวจเมื่อมีอายุครบ 7 ปี และรถจักรยานยนต์เมื่อครบ 5 ปี การเตรียมรถให้พร้อมและเข้ารับการตรวจสภาพไม่เพียงแต่ทำให้คุณสามารถต่อภาษีได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยทุกครั้งที่ขับขี่ และยังเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย