การมีลูกน้อยเข้ามาในครอบครัวคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายมากมายที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนต้องกุมขมับ แต่รู้ไหมครับว่า รัฐมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้อยู่ด้วย
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อคุณพ่อคุณแม่มือใหม่โดยเฉพาะ เราจะมาสรุปทุกรายการลดหย่อนภาษีที่เกี่ยวกับลูกแบบเข้าใจง่ายที่สุด ให้คุณวางแผนการเงินและใช้สิทธิ์ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยครับ
ค่าลดหย่อนบุตร (สิทธิ์พื้นฐานที่พ่อแม่ทุกคนต้องใช้!)
นี่คือสิทธิ์หลักที่กรมสรรพากรมอบให้สำหรับคนที่มีลูก โดยมีเงื่อนไขและวงเงินดังนี้ครับ
-
ลูกคนแรก: ลดหย่อนได้ 30,000 บาท
-
ลูกคนที่ 2 เป็นต้นไป (ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561): ลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
เงื่อนไขสำคัญที่ต้องรู้
-
ลูกต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี และกำลังศึกษาอยู่ หรือยังเป็นผู้เยาว์ (อายุไม่ถึง 20 ปี)
-
ลูกต้องไม่มีรายได้ในปีนั้นเกิน 30,000 บาท
-
ต้องเป็นลูกโดยสายเลือดหรือลูกบุญธรรมที่จดทะเบียนถูกต้อง
-
กรณีมีลูกหลายคน: ให้นับลำดับการเกิดของลูกทุกคน ไม่ว่าลูกคนโตจะหมดสิทธิ์ลดหย่อนไปแล้วก็ตาม
ตัวอย่าง: ครอบครัวมีลูก 2 คน คนโตอายุ 26 ปี (ทำงานแล้ว) และคนเล็กอายุ 10 ปี
คุณพ่อคุณแม่จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนลูกคนโตได้
แต่จะใช้สิทธิ์ลดหย่อนลูกคนที่สองได้ในฐานะ “ลูกคนที่ 2” คือ 60,000 บาท
ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร (ลดหย่อนได้ตั้งแต่ลูกยังไม่ลืมตาดูโลก)
ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงวันคลอด ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกันครับ
-
ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท ต่อการตั้งครรภ์หนึ่งครั้ง
-
รวมค่าใช้จ่ายทั้งค่าตรวจครรภ์, ค่ายา, ค่าทำคลอด ที่จ่ายให้กับสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน
-
สามีสามารถใช้สิทธิ์นี้ได้ หากภรรยาไม่มีเงินได้ หรือยื่นภาษีร่วมกัน
เบี้ยประกันสุขภาพของลูก (ข้อนี้หลายคนเข้าใจผิด!)
คุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายให้ลูกมาลดหย่อนภาษีได้
Q&A คำถามที่พบบ่อยจากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่
Q: พ่อกับแม่จะแบ่งกันใช้สิทธิ์ลดหย่อนลูกอย่างไร?
A: หากจดทะเบียนสมรสและต่างฝ่ายต่างมีรายได้ สามารถตกลงกันได้ว่าจะให้ใครเป็นผู้ใช้สิทธิ์ หรือแบ่งกันคนละครึ่ง (เช่น คนละ 15,000 บาทสำหรับลูกคนแรก) แต่ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสมรส สิทธิ์จะตกเป็นของแม่ แต่หากตกลงกันได้ พ่อก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ครับ
Q: หากจ่ายค่าคลอดบุตร (ครั้งแรก) ในช่วงต้นปีภาษี เป็นเงิน 60,000 บาท และในช่วงปลายปีภาษีเดียวกัน จ่ายค่าฝากครรภ์บุตรคนที่ 2 อีก 60,000 บาท จะลดหย่อนได้ 120,000 ใช่ไหม
A: ลดหย่อนได้ 120,000 บาท
Q: จ่ายค่าฝากครรภ์ไป 30,000 บาท แต่ต่อมาแท้งบุตร จะลดหย่อนได้เท่าไหร่?
A: ลดหย่อนได้สูงสุด 60,000 บาท
Q: ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
A: โดยปกติไม่ต้องยื่นเอกสารทันที แต่ต้องเตรียมไว้หากถูกเรียกตรวจ เช่น สำเนาสูติบัตรของลูก, ใบเสร็จค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร, เอกสารรับรองการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ เป็นต้น
สรุป: วางแผนตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีของลูก
การเป็นพ่อแม่คือการเดินทางที่ยาวไกล การวางแผนภาษีอย่างชาญฉลาดตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น แต่ยังหมายถึงการมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยของคุณ
ข้อควรจำ: ข้อมูลทางภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของกรมสรรพากรโดยตรง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อความถูกต้องและครบถ้วนที่สุด
อ้างอิงจาก www.rd.go.th
