นอนโรงพยาบาลได้เงินชดเชย ควรซื้อเพิ่มเติมไหม?

ประกันชดเชยรายได้

รับความรู้ดี ๆ อัปเดตความรู้เรื่องประกันรถ เคล็ดลับดูแลรถ และสิทธิพิเศษดี ๆ ส่งตรงถึง Inbox ทุกเดือน สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ประกันชดเชยรายได้ (Hospital Income Protection Insurance) คือ ประกันภัยที่จ่ายเงินชดเชยให้ผู้เอาประกันภัยเป็นรายวันตามจำนวนวันที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยจากโรคภัยหรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยจำนวนเงินที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อไว้ เช่น วันละ 500, 700, หรือสูงสุดถึง 1,000 บาท ดูแผนประกันชดเชยรายได้

ความสำคัญของเงินชดเชยรายวัน ไม่ใช่การช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลโดยตรง (ซึ่งเป็นหน้าที่ของประกันสุขภาพ) แต่อยู่ที่การ “ทดแทนรายได้ที่ขาดหายไป” ในช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถทำงานได้ ลองจินตนาการถึงสถานการณ์เหล่านี้:

  • เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือฟรีแลนซ์: การหยุดงานแม้เพียงวันเดียว หมายถึงรายได้ที่หายไปทันที
  • พนักงานประจำ: แม้จะมีสวัสดิการลาป่วย แต่หากต้องนอนโรงพยาบาลนานเกินสิทธิ์ อาจหมายถึงการต้องใช้สิทธิ์ลาพักร้อนหรือลาโดยไม่รับเงินเดือน
  • หัวหน้าครอบครัว: ค่าใช้จ่ายในบ้านยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเทอมลูก หรือค่าครองชีพอื่นๆ

เงินชดเชยส่วนนี้จึงเปรียบเสมือน “เบาะรองรับทางการเงิน” ที่ช่วยให้คุณและครอบครัวยังคงเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ต้องนำเงินออมมาใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน

ประกันชดเชยรายได้

ใครบ้างที่ “ควรมี” ประกันชดเชยรายวัน?

จากประสบการณ์และข้อมูลที่รวบรวมมา กลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากประกันชดเชยรายวันอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่:

  1. ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelancer) : กลุ่มนี้คือเป้าหมายหลัก เนื่องจากรายได้ผูกติดกับการทำงานโดยตรง การหยุดงานหมายถึงรายได้จะหยุดทันที
  2. พนักงานประจำที่สวัสดิการมีจำกัด: บางบริษัทอาจมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล แต่ไม่มีเงินชดเชยการขาดรายได้ หรือมีประกันกลุ่มที่ให้ความคุ้มครองส่วนนี้น้อย
  3. ผู้ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว: การมีประกันชดเชยรายวันจะช่วยลดความกังวลว่าหากตนเองเจ็บป่วย ครอบครัวจะได้รับผลกระทบทางการเงิน

จากประสบการณ์จริง (Experience): ผู้ใช้งานในเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง Pantip.com หลายท่านที่เป็นฟรีแลนซ์ ได้แชร์ประสบการณ์ว่าการที่ป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุนอนโรงพยาบาล ทำให้เกิดผลประทบต่อรายได้อย่างมาก 

ขอโฆษาหน่อยนะ

ประกันชดเชยรายได้

ชดเชยรายได้ตามจำนวนวันที่นอนโรงพยาบาล ค่าเบี้ยเริ่มต้น 1,080 บาท ต่อปี
  • ชดเชยรายได้ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล : 500 บาทต่อวัน
  • ชดเชยรายได้ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล กรณีนอน ICU : 1,000 บาทต่อวัน
ประกันชดเชยรายได้ เหมาะกับผู้ที่หากหยุดงานจะไม่มีรายได้ และเป็น "ทางเลือกที่ดี" สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอุ่นใจและสร้างหลักประกันทางการเงินให้ตนเองและครอบครัว

ก่อนตัดสินใจทำ: ต้องพิจารณาอะไรบ้าง? (Expertise & Authoritativeness)

การเลือกซื้อประกันไม่ใช่แค่การดูเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขความคุ้มครองอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับความคุ้มครองตามที่คาดหวัง

1.วงเงินชดเชยที่เหมาะสม:

  • ควรประเมินจากรายได้ต่อวันของคุณ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละวัน
  • บริษัทประกันมักกำหนดเพดานการจ่ายเงินชดเชยต่อวัน 

2.เงื่อนไขและข้อยกเว้นความคุ้มครอง:

  • ระยะเวลารอคอย (Waiting Period): โดยทั่วไปประกันชดเชยรายวันจะยังไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปที่เกิดขึ้นภายใน 30 วันแรกนับจากวันทำสัญญา 
  • ข้อยกเว้นทั่วไป: ประกันส่วนใหญ่จะไม่คุ้มครองสภาพที่เป็นมาก่อนการทำประกัน (Pre-existing Condition ควรศึกษาจากเอกสารกำกับกรมธรรม์อย่างละเอียด

3.ความคุ้มครองเพิ่มเติม:

  • ค่าชดเชยกรณีเข้าพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยหนัก (ICU): หลายแผนประกันจะให้ผลประโยชน์เป็น 2 เท่าของเงินชดเชยรายวันปกติ
  • การรักษาแบบไม่ต้องนอนโรงพยาบาล (Day Case): ตรวจสอบว่าแผนประกันของคุณครอบคลุมการรักษาบางประเภทที่ไม่ต้องนอนค้างคืนแต่ถือเป็นการรักษาแบบผู้ป่วยในหรือไม่ เช่น การสลายนิ่ว

4.ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน (Trustworthiness):

  • เลือกบริษัทประกันที่มีความมั่นคงทางการเงินและมีชื่อเสียงที่ดีในการจ่ายสินไหมทดแทน
  • สามารถตรวจสอบข้อมูลบริษัทประกันได้จากเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
  • อ่านรีวิวและประสบการณ์การเคลมจากผู้ใช้งานจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

สรุป: จำเป็นหรือไม่? คำตอบอยู่ที่ตัวคุณ

การทำประกันชดเชยรายวัน “จำเป็นอย่างยิ่ง” สำหรับผู้ที่รายได้จะหยุดชะงักทันทีเมื่อต้องหยุดงาน และเป็น “ทางเลือกที่ดี” สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอุ่นใจและสร้างหลักประกันทางการเงินให้ตนเองและครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ประกันชดเชยรายวันไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน หากคุณมีสวัสดิการที่ครอบคลุม มีเงินออมสำรองฉุกเฉินเพียงพอ หรือยอมรับความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ การไม่ทำประกันนี้ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ผิด

คำแนะนำสุดท้าย: ก่อนตัดสินใจ ควรตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเอง:

  • หากต้องนอนโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ สถานะทางการเงินของคุณจะเป็นอย่างไร?
  • คุณมีเงินสำรองเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันนานแค่ไหนหากไม่มีรายได้เข้ามา?
  • ความสบายใจจากการมีหลักประกันทางการเงิน มีค่ามากกว่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในแต่ละปีหรือไม่?

การพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันภัยในครั้งนี้

แชร์บทความนี้