4 เทคนิคการเลือกซื้อประกันสุขภาพสำหรับมือใหม่

4 เทคนิคการเลือกซื้อประกันสุขภาพสำหรับมือใหม่
ให้เราเลือกประกันที่เหมาะสมกับคุณผ่านไลน์ ปรึกษาผ่าน LINE

4 เทคนิคการเลือกซื้อประกันสุขภาพสำหรับมือใหม่ที่ง่ายและใช้ได้จริง

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โรค “โควิด-19” ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพและการทำประกันสุขภาพมากขึ้น แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการซื้อประกันสุขภาพมาก่อน อาจจะยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เราจึงมีเทคนิคง่ายๆ 4 ข้อ สำหรับมือใหม่ที่ควรนำมาพิจารณา

1. ความคุ้มครองปัจจุบันที่เรามี

ก่อนที่จะมองไปถึงการเลือกซื้อประกันสุขภาพแบบไหนดี เราควรสำรวจตัวเองก่อนว่าในปัจจุบันเรามีความคุ้มครองอะไรอยู่แล้วบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนี้เราเป็นพนักงานประจำ เราอาจมีประกันสังคม มีประกันกลุ่มของที่ทำงาน หรือหากเราเป็นข้าราชการ เรามีสวัสดิการข้าราชการอยู่ ความคุ้มครองที่เรามีอยู่นั้นคุ้มครองอะไรบ้าง จะทำให้เราเห็นส่วนที่สำคัญคือตอนนี้เราขาดอะไรอยู่ จากนั้นจึงมาเลือกดูเพิ่มเติมในสิ่งที่เราขาดไป เช่น ถ้าสวัสดิการของเรามีความคุ้มครองผู้ป่วยนอกอยู่แล้ว เราก็อาจจะเลือกซื้อประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองเฉพาะผู้ป่วยใน (IPD) อย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราไม่มีสวัสดิการเหล่านี้เลย นั่นหมายความว่าเราอาจจะต้องเลือกซื้อประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองทั่งผู้ป่วยใน IPD และผู้ป่วยนอก OPD

2. ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของเรา

สำรวจการใช้ชีวิตของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น ใน 1 ปีที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนานหรือไม่ หากใน 1 ปีเราต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมากถึง 5-6 เดือน เราควรจะต้องเลือกซื้อประกันสุขภาพที่มีอาณาเขตความคุ้มครองในประเทศที่เราต้องอาศัยอยู่เป็นประจำ เนื่องจากประกันสุขภาพบางประเภทมีอาณาเขตความคุ้มครองในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา แต่หากเราไม่ได้เป็นคนที่เดินทางบ่อย เราก็เลือกประกันสุขภาพที่มีอาณาเขตความคุ้มครองในประเทศไทยก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองครอบคลุมต่างประเทศด้วยจะมีราคาค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่า ส่วนการเดินทางเป็นครั้งคราว เราอาจจะเลือกทำประกันเดินทางควบคู่ไปเพื่อลดความเสี่ยงซึ่งจะมีราคาถูกกว่า

นอกจากนั้นยังควรสำรวจด้วยว่าที่ผ่านมาเวลาที่ตัวเราเจ็บป่วย เรามีโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือ โรงพยาบาลที่ใช้บริการเป็นประจำหรือไม่ หากมี เราก็ควรไปสำรวจว่าโรงพยาบาลนั้นๆ มีราคาค่าห้องต่อคืนเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้เลือกดูประกันสุขภาพที่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายนั้นให้เหมาะสม ในบางเครือโรงพยาบาล ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลในเครือ BDMS ซึ่งเป็นเครือโรงพยาบาลใหญ่ครอบคลุมหลายโรงพยาบาลชื่อดัง เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช เป็นต้น จะมีประกันสุขภาพบางประเภทที่เราสามารถเลือกทำและให้ความคุ้มครองที่ดีกว่าเฉพาะเจาะจงสำหรับโรงพยาบาลในเครือข่ายนี้ ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

3. ปีต่ออายุ

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือระยะเวลาในการต่ออายุ เราควรพิจารณาว่าประกันสุขภาพที่เราเลือกสามารถต่ออายุประกันได้จนถึงอายุกี่ปี เพราะอย่าลืมว่าปัจจุบันอายุเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อก่อน เรียกง่ายๆ ว่าคนไทยอายุยืนขึ้น เมื่อก่อนประกันสุขภาพจะต่ออายุได้สูงสุดคือ 60 หรือ 65 แต่ปัจจุบันประกันสุขภาพของบางบริษัทประกันสามารถต่ออายุได้ถึง 80 ปี หรือ 99 ปี ก็ยังมี เพราะอย่าลืมว่าช่วงเวลาที่เราเจ็บป่วยส่วนใหญ่นั้นมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เราอายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นปัจจัยเรื่องปีต่ออายุจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้

4. ความสามารถในการชำระเบี้ย

เนื่องจากความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกันของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นเราควรคำควณดูว่าต่อปีเรามีงบประมาณหรือมีความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ปีละเท่าไหร่ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดแผนประกันสุขภาพ หรือผลประโยชน์สูงสุดที่เราสามารถซื้อได้โดยไม่ทำให้เราลำบาก

การซื้อความคุ้มครองที่น้อยเกินไปย่อมไม่ใช่เรื่องดี แต่ในทางกลับกันการซื้อความคุ้มครองที่มากเกินความจำเป็นก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเช่นเดียวกัน การเลือกซื้อหรือทำประกันสุขภาพควรวางแผนให้เหมาะสมกับตัวเองทั้งในเรื่องความคุ้มครองและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันของเรา

ที่สำคัญอย่าลืมว่าการทำประกันสุขภาพเป็นหนึ่งในการวางแผนทางการเงินตามมาตราฐานหลักการวางแผนทางการเงินที่ทั่วโลกให้การยอมรับ (Wealth Protection) หรือ การปกป้องความมั่งคั่ง เพราะประกันสุขภาพเป็นหนึ่งในเครืองมือทางการเงินที่ทำให้เราสามารถรับกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

ทั้งหมดนี้ก็คือปัจจัยเบื้องต้นสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เริ่มมองหาประกันสุขภาพแต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ลองนำเอาเทคนิค 4 ข้อง่ายๆ สำหรับมือใหม่ไปปรับใช้กันดู ย้ำกันอีกครั้ง ก่อนจะถามว่าประกันสุขภาพที่ไหนดี หรือประกันสุขภาพที่ไหนดีที่สุด เราควรเริ่มต้นจากการสำรวจสิ่งที่เรามีอยู่และไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของตัวเราเองก่อนเป็นอันดับแรก

สำหรับท่านใดที่สนใจประกันสุขภาพ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-633-6060 หรือแอดไลน์สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@tiscoinsure นะครับ

ผลิตภัณฑ์ประกันแนะนำ

ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Easy Health

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 9,378 บาท ต่อปี

  • คุ้มครองสูงสุด: 5,000,000 บาท/ปี
  • ผู้ป่วยใน: เหมาจ่ายตามจริง
  • ผู้ป่วยนอก: –
  • ค่าห้อง : ห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน
ดูรายละเอียด
ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Prestige

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 18,611 บาท ต่อปี

  • คุ้มครองสูงสุด: 100,000,000 บาท/ปี
  • ผู้ป่วยใน: เหมาจ่ายตามจริง
  • ผู้ป่วยนอก: ซื้อเพิ่มได้
  • ค่าห้องสูงสุด: 25,000 บาท
ดูรายละเอียด
ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Saver

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 5,940 บาท ต่อปี

  • คุ้มครองสูงสุด: 300,000 บาท/ปี
  • ผู้ป่วยใน: ไม่เกิน 50,000 บาท/ต่อครั้ง
  • ผู้ป่วยนอก: –
  • ค่าห้องสูงสุด : ตามจริง
ดูรายละเอียด

แชร์บทความนี้