ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เติมเต็มความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย

จุดเด่นของ My Case Smart

  • เหมาจ่ายตามจริงไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ สูงสุด 700,000 บาทต่อปี
  • ค่าเบี้ยเริ่มต้นหลักพัน หากมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว สามารถเลือกแผนที่มีค่าเสียหายส่วนแรกลดค่าเบี้ยสูงสุดกว่าครึ่ง
  • สมัครง่ายไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องสำรองจ่าย
  • มั่นใจ เรื่องความคุ้มครองระยะยาว ไม่ปฏิเสธการต่ออายุแม้มีการเคลมสูง
  • สามารถซื้อ OPD เพิ่มได้

ประกันสุขภาพนี้เหมาะกับใคร

  • พนักงานออฟฟิศที่เพิ่งเริ่มทำงาน
  • ไม่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล

สนใจแบบประกันนี้

ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ คุยกับเจ้าหน้าที่ผ่านไลน์

แผนความคุ้มครอง My Care Smart

ตัวอย่างค่าเบี้ย

เพศชาย / เพศหญิง อายุ 31 ปี

  • แผน 2 มีความรับผิดส่วนแรก
  • ความคุ้มครอง 5 แสนบาท
  • เบี้ยประกันภัยต่อปี 9,948 บาท

ตัวอย่างเหตุการณ์ที่คุ้มครอง

นาย ก. ซื้อประกัน My Care Smart แผน 2 ผลประโยชน์สูงสุด 500,000 ต่อปี ผ่าตัดไส้ติ่ง โดยเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน 3 วัน เกิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 115,000 บาท

หมวดความคุ้มครอง แผน 2 ค่าใช้จ่ายตามใบเสร็จ บริษัทประกันคุ้มครอง
ค่าห้อง ค่าอาหาร 3,500 บาทต่อวัน 15,000 10,500
(ค่าห้องวันละ 3,500 บาท x 3 วัน = 10,500)
ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ค่าแพทย์ และค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด คุ้มครองตามจริงสูงสุด 500,000 บาท
(ความรับผิดส่วนแรก 20,000 บาท)
100,000 80,000
(100,000 – ความรับผิดส่วนแรก 20,000 = 80,000)
รวมทั้งหมด 115,000 90,500
  • บุคคลสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยรวมถึงชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงาน หรือใบอนุญาตเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย
  • ผู้เอาประกันภัยต้องมีอายุ 15 วัน – 65 ปี
  • อายุ 15 วัน – 60 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 100 ปี
  • อายุ 61 – 65 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 80 ปี
  • การประกันสุขภาพนี้ไม่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอันสืบเนื่องจาก
    • โรคที่เป็นมาแต่กำเนิด โรคเรื้อรัง การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่ยังมิได้รักษาให้หายก่อนวันทำสัญญาประกันภัย
    • การเจ็บป่วยใดๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 30 วัน (Waiting Period) หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับครั้งแรก
    • การเจ็บป่วยดังต่อไปนี้ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 120 วัน (Waiting Period)หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับครั้งแรก เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด ,ริดสีดวงทวาร ,ไส้เลื่อนทุกชนิด , ต้อเนื้อหรือต้อกระจก , การตัดทอนซิล หรืออะดีนอยด์ , นิ่วทุกชนิด เส้นเลือดขอดที่ขา , เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
    • การแถลงสุขภาพเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณารับประกันภัยหรือจ่ายเงินตามสัญญาประกันภัย
  • เงื่อนไขและข้อยกเว้นข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โปรดศึกษารายละเอียดและข้อยกเว้นความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรมธรรม์ประกันภัย
  • ผู้เอาประกันภัยที่อายุระหว่าง 15 วัน ถึง 15 ปี ต้องสมัครพร้อมบิดาหรือมารดาอย่างน้อย 1 คน และแผนประกันจะต้องให้ความคุ้มครองที่ต่ำกว่าหรือเทียบเท่า กับบิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองโดยชอบธรรม
  • ความคุ้มครองการเจ็บบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจะคุ้มครองทันที นับจากวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับครั้งแรก
  • ความคุ้มครองการเจ็บป่วยใดๆ จะมีผลคุ้มครองเมื่อพ้น 30 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับครั้งแรก
  • เบี้ยประกันสำหรับปีต่ออายุจะปรับเปลี่ยนไปตามอายุผู้เอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นและประวัติการเคลมของปีกรมธรรม์ก่อนหน้า
  • อนุญาตให้ซื้อกรมธรรม์ที่มีความเสียหายส่วนแรกได้เพียง 1 กรมธรรม์เท่านั้นและทุนประกันภัยรวมสูงสุด 5 ล้านบาทต่อผู้เอาประกันภัย
  • การรับประกันภัยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและกฎเกณฑ์การพิจารณาของบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)


FC 2024 web TISCO 1900x400px

คำถามที่พบบ่อย

OPD คืออะไร?

OPD ย่อมาจาก Out-Patient Department หมายถึง ผู้ป่วยนอก ซึ่งหมายถึงผู้ป่วยที่เข้าไปรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนอนพักที่โรงพยาบาล สามารถกลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านได้ โดยส่วนมากอาการป่วยของผู้ป่วยนอกจะไม่รุนแรงมากนัก เช่น ไข้หวัด แพ้อากาศ ไอ หรือหัวแตก เย็บแผลไม่กี่เข็ม แต่แพทย์ลงความเห็นว่ากลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ก็นับเป็นผู้ป่วยนอกทั้งหมด บางคนอาจจะเรียกว่าหาหมอรับยากลับบ้าน

IPD หมายถึง “Inpatient Department” ในภาษาไทยหมายถึง “แผนกผู้ป่วยใน” นั่นคือแผนกที่ให้บริการดูแลและรักษาผู้ป่วยที่ต้องนอนรอค้างคืนในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพที่จำเป็นต้องรับการรักษาเชิงลึกหรือต้องให้บริการเฉพาะทาง เช่น การผ่าตัด, การรักษาโรคร้ายแรง, หรือการกู้ชีวิต ใน IPD ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์และพยาบาลตลอดเวลา รวมถึงการให้ยาและการดูแลเฉพาะทางที่ต้องการ โดยผู้ป่วยจะต้องพักอยู่ในตึกหรือห้องที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยในระหว่างรักษา

ค่าเสียหายส่วนแรกหมายถึงจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันต้องชำระด้วยตนเองก่อนที่บริษัทประกันจะเริ่มชดเชยส่วนที่เหลือของค่าสินไหมที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ครอบคลุมในกรมธรรม์ประกันภัย ในอื่น ๆ อาจเรียกว่าค่าเสียหายที่เหลืออยู่ เป้าหมายของค่าเสียหายส่วนแรกคือเพื่อลดความเสี่ยงของบริษัทประกัน และให้ผู้เอาประกันมีส่วนร่วมในการจัดการความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปค่าเสียหายส่วนแรกจะระบุในกรมธรรม์และจะมีระยะเวลาหรือวงเงินที่กำหนดให้เป็นเวลาหรือยอดรวมตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องชดเชยค่าสินไหมผู้เอาประกันจะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรกก่อนจึงจะได้รับการชดเชยส่วนที่เหลือจากบริษัทประกันภัย

  •  การป่วยใดๆที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือ วันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้
    แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นภายหลัง หรือ
  • การป่วยดังต่อไปนี้ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 120 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นภายหลัง
    • เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด
    • ริดสีดวงทวาร
    • การตัดทอนซิล หรืออะดีนอยด์
    • นิ่วทุกชนิด
    • ไส้เลื่อนทุกชนิด
    • ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก
    • เส้นเลือดขอดที่ขา
    • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

นับจากปี พ.ศ. ปัจจุบัน ลบปี พ.ศ. เกิดของผู้ขอเอาประกัน เช่น เกิดปี 2534 (2566-2534) =  อายุ

คุ้มครองทุกโรค ที่ไม่ระบุในข้อยกเว้นและไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน

ซื้อกี่กรมธรรม์ก็ได้ โดยทุนประกันภัยรวมทุกแผนแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อผู้เอาประกันภัย 1 ท่าน

ผลิตภัณฑ์ประกันแนะนำ

ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Easy Health

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 9,378 บาท ต่อปี

  • คุ้มครองสูงสุด: 5,000,000 บาท/ปี
  • ผู้ป่วยใน: เหมาจ่ายตามจริง
  • ผู้ป่วยนอก: –
  • ค่าห้อง : ห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน
ดูรายละเอียด
ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Prestige

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 18,611 บาท ต่อปี

  • คุ้มครองสูงสุด: 100,000,000 บาท/ปี
  • ผู้ป่วยใน: เหมาจ่ายตามจริง
  • ผู้ป่วยนอก: ซื้อเพิ่มได้
  • ค่าห้องสูงสุด: 25,000 บาท
ดูรายละเอียด
ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Saver

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 5,940 บาท ต่อปี

  • คุ้มครองสูงสุด: 300,000 บาท/ปี
  • ผู้ป่วยใน: ไม่เกิน 50,000 บาท/ต่อครั้ง
  • ผู้ป่วยนอก: –
  • ค่าห้องสูงสุด : ตามจริง
ดูรายละเอียด