เคลมสด เคลมแห้ง ต่างกันอย่างไร?

เคลมสด เคลมแห้ง ต่างกันอย่างไร?
ให้เราเลือกประกันที่เหมาะสมกับคุณผ่านไลน์ ปรึกษาผ่าน LINE

การเคลมประกันรถยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เคลมสด กับ เคลมแห้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้

ประเภทที่ 1 เคลมสด

คือเคลมที่พนักงานออกตรวจสอบทันที ณ จุดที่เกิดเหตุขณะเกิดอุบัติเหตุ เพื่อไปเช็คข้อเท็จจริงว่าผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายถูก หรือประมาทร่วม เช่น การเกิดเหตุชนกันทำให้มีผู้บาดเจ็บ รถเสียหายหนักซึ่งการเคลมลักษณะนี้ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเอกสารหลักฐานจากพนักงานเคลมที่วิ่งออกไปตรวจสอบ และสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปติดต่อซ่อมได้เลย

เคลมสดมีขั้นตอน และเงื่อนไขอย่างไร

ผู้เอาประกันนำหลักฐานดังต่อไปนี้เข้าไปติดต่อที่ศูนย์ หรืออู่ในเครือของบริษัทนั้นได้เลย พร้อมหลักฐานดังต่อไปนี้

  1. ใบเคลม/ใบรับรองความเสียหาย
  2. ใบขับขี่ หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ ตัว – สกุล กรณีมีการเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล พร้อม สำเนาบัตรประชาชน
  3. หน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
  4. สำเนาทะเบียนรถ
เคลมแห้ง 2

ประเภทที่ 2 เคลมแห้ง

คือเคลมที่ไม่ต้องรอให้พนักงานออกตรวจสอบอุบัติเหตุ ณ วันที่เกิดเหตุ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นเคลมเล็กๆ น้อยๆ และไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยรถครูดเสา ซึ่งการเคลมลักษณะนี้ผู้เอาประกันภัยสามารถติดต่อเพื่อขอรับเอกสารการเคลม หรือจะนำรถไปติดต่อที่อู่ในเครือของบริษัทประกันภัยได้ในเวลาที่สะดวก โดยต้องแจ้งเคลมก่อนที่กรมธรรม์จะหมดอายุ

เคลมแห้งมีขั้นตอน และเงื่อนไขอย่างไร

นำรถเข้าไปติดต่อศูนย์ หรืออู่ในเครือของบริษัทประกันภัยนั้นพร้อมหลักฐานเพื่อให้ศูนย์ หรืออู่ในเครือติดต่อบริษัทประกันภัยเปิดเคลม ก่อนที่กรมธรรม์จะหมดอายุ เอกสารมีดังนี้

  1. ใบขับขี่ หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ ตัว – สกุล กรณีมีการเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล พร้อม สำเนาบัตรประชาชน
  2. สำเนาหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย
  3. สำเนาทะเบียนรถ

เคลมสด เคลมแห้งสำหรับประกันรถยนต์ควรเคลมแบบไหน? ก็สามารถแจ้งเคลมได้ทั้ง 2 แบบขึ้นอยู่กับเหตุการณ์และความสะดวกของผู้เอาประกันภัย

ประเภทการเคลม ใบขับขี่/บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนรถ ใบเคลม กรมธรรม์
เคลมสด ใช้ ใช้ ใข้ ใข้
เคลมแห้ง ใช้ ใช้ ใช้
สำหรับท่านใดที่สนใจประกันรถยนต์ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-633-6060 หรือแอดไลน์สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@tiscoinsure นะครับ

ผลิตภัณฑ์ประกันแนะนำ

ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 15,000 บาท/ปี

  • คุ้มครองสูงสุด : ตามทุนประกัน
  • ทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 5,000,000
  • ประเภทการซ่อม : ห้าง(ศูนย์)
  • ค่าเสียหายส่วนแรก : -
ดูรายละเอียด
ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 5,900 บาท/ปี

  • คุ้มครองสูงสุด : ตามทุนประกัน
  • ทรัพย์สินบุคคลภายนอก :1,500,000
  • ประเภทการซ่อม : อู่
  • ค่าเสียหายส่วนแรก : -
ดูรายละเอียด
ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 5,888 บาท/ปี

  • คุ้มครองสูงสุด : ตามทุนประกัน
  • ทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 1,000,000
  • ประเภทการซ่อม : อู่
  • ค่าเสียหายส่วนแรก : -
ดูรายละเอียด

แชร์บทความนี้