สวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยมะเร็งกัน หลายคนอาจสงสัยว่าผู้ป่วยมะเร็งสามารถออกกำลังกายได้หรือไม่ คำตอบคือ ผู้ป่วยมะเร็งสามารถออกกำลังกายได้ แต่ต้องออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและปลอดภัย ก่อนจะเริ่มขอขายของหน่อย ประกันมะเร็งเจอ จ่าย รักษาต่อเนื่อง ตรวจพบมะเร็งไม่ว่าจะระยะใดก็ตามรับเงินก้อนทันที
ผู้ป่วยมะเร็งจะไม่สามารถออกกำลังกายได้
เป็นความเชื่อที่ผิดเพราะอันที่จริงแล้ว ผู้ป่วยมะเร็งจำเป็นต้องออกกำลังกาย เพื่อรักษาระดับคุณภาพชีวิตของตนให้อยู่ในภาวะใกล้เคียงสภาพปกติมากที่สุด เนื่องจากกระบวนการรักษาโรคมะเร็งจะมีภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงบางประการจึงสามารถใช้การรักษาเป็นเกณฑ์จำแนกการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยได้ ดังนี้
- ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดควรออกกำลังกายประเภทที่ช่วยเรื่องระบบหายใจ เช่น การฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพื่อให้กล้ามเนื้อและ อวัยวะที่ใช้สำหรับการหายใจแข็งแรง
- ผู้ป่วยที่รับการฉายรังสีรักษาผู้ป่วยอาจมีภาวะกล้ามเนื้อหดตึงจากรังสี เพราะกล้ามเนื้อจะสูญเสียความยืดหยุ่น ควรออกกำลังกาย แบบการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยคืนความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ
- ผู้ป่วยที่รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
จะมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง ส่งผลต่อการทรงตัว และการเคลื่อนไหวต่างๆ การออกกำลังกาย จึงต้องมีลักษณะกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด รวมไปถึงช่วยเรื่องการทรงตัว เช่น การปั่นจักรยานอยู่กับที่
ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อช่วยให้สามารถเลือกประเภท การออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสมที่สุดในแต่ละบุคคล
ประโยชน์ของการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
การออกกำลังกายมีประโยชน์มากมายสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ดังนี้
- ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น การออกกำลังกายช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีแรงมากขึ้นและสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว
- ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งรู้สึกสดชื่นและตื่นตัวมากขึ้น
- ช่วยให้จิตใจดีขึ้น การออกกำลังกายช่วยผลิตสารสื่อประสาทที่ช่วยให้อารมณ์ดีและลดความเครียด ผู้ป่วยมะเร็งจึงรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น
- ช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษา การออกกำลังกายช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษามะเร็ง เช่น อาการอ่อนเพลีย อาการปวด และความเหนื่อยล้า
ประเภทของการออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง
ผู้ป่วยมะเร็งควรออกกำลังกายแบบแอโรบิก การออกกำลังกายแบบต้านทาน และการออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น
การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การเดิน การวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นรำ เป็นต้น จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและช่วยเผาผลาญแคลอรี
การออกกำลังกายแบบต้านทาน เช่น การยกน้ำหนัก การดึงยางยืด เป็นต้น จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ การโยคะ เป็นต้น จะช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นและลดอาการปวด
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่เริ่มออกกำลังกาย
ผู้ป่วยมะเร็งที่เริ่มออกกำลังกายควรเริ่มต้นอย่างช้าๆ และค่อย ๆ เพิ่มระดับความหนักของการออกกำลังกายขึ้นทีละน้อย ควรฟังเสียงร่างกายและหยุดพักหากรู้สึกเหนื่อยหรือเจ็บปวด ผู้ป่วยมะเร็งควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการข้างเคียงจากการรักษา
สรุป
การออกกำลังกายมีประโยชน์มากมายสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยมะเร็งควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและปลอดภัย เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้จิตใจดีขึ้น และช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษา
ข้อมูลจาก: thaihealth
ประกันมะเร็งทิสโก้ดีอย่างไร
- คุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ
- รับเงินก้อน 100% ของทุนประกันที่ทำไว้เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง
- วงเงินค่ารักษาสูงสุด 1 ล้านบาท
- ค่าเบี้ยคงที่ไม่ปรับเพิ่มตามช่วงอายุ
- ชดเชยค่าตรวจวินิจฉัยซ้ำโรคมะเร็ง และค่าเดินทางไปรักษาตัวสำหรับโรคมะเร็ง
ด้วยแผนความคุ้มครองที่หลากหลายและความยืดหยุ่นในการเลือกตามความต้องการของคุณ ประกันมะเร็งทิสโก้จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการดูแลสุขภาพของคุณและครอบครัว สำหรับท่านใดที่สนใจประกันมะเร็ง อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
ผลิตภัณฑ์ประกันแนะนำ
ประกันคุ้มครองโรคมะเร็ง
ประกันภัยโรคมะเร็ง Zero Cancer
ค่าเบี้ยเริ่มต้น 960 บาท ต่อปี
- ตรวจเจอโรคมะเร็งสูงสุด : 500,000
- ค่ารักษาโรคมะเร็งสูงสุด : 1,000,000
- ค่าวินิจฉัยซ้ำโรคมะเร็ง : 10,000
- ค่าเดินทาง : 500
ประกันคุ้มครองโรคมะเร็ง
ประกันภัยโรคมะเร็งซุปเปอร์เซฟ
ค่าเบี้ยเริ่มต้น 500 บาท ต่อปี
- ตรวจเจอโรคมะเร็ง : 100,000
- ค่ารักษาโรคมะเร็ง : 20,000
- ค่าวินิจฉัยซ้ำโรคมะเร็ง : –
- ค่าเดินทาง : –
ประกันคุ้มครองโรคร้าย
CI Extra Care
ค่าเบี้ยเริ่มต้น 2,837 บาท ต่อปี
- คุ้มครองโรคร้ายแรงสูงสุด : 5,000,000
- เสียชีวิตคุ้มครองสูงสุด : 100,000
- คุ้มครอง: 8กลุ่มโรคร้าย 108 โรคร้าย
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน : สูงสุดวันละ 10,000