อายุช่วงไหนต้องซื้อประกันอะไรบ้าง?

การเลื้อกซื้อประกันในแต่ละช่วงอายุ

การทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพมีความสำคัญในการสร้างความคุ้มครองให้กับตัวเองและครอบครัว

• 💼 ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุเป็นประกันพื้นฐานที่ควรมี
• 💑 ประกันแบบ Term life และแบบ Whole life เหมาะกับการสร้างความคุ้มครองในวันที่เราไม่อยู่
• 💰 ประกันสามารถช่วยบริหารทางการเงินและสร้างวินัยทางการเงินได้
• 🏦 การทำประกันยังสามารถส่งต่อมรดกให้กับคนที่เรารักได้
• 📝 การทำประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 3 แสนบาทต่อปี

“เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ที่ประเทศไทยนะครับ ถ้ามีคนเสียชีวิต 1 คน จะมีคนจนเพิ่มขึ้น 3 คน แต่ที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้ามีคนเสียชีวิต 1 คน จะมีคนรวยเพิ่มขึ้นถึง 3 คน”

ความสำคัญในการซื้อประกัน และคุณสมบัติของประกัน

1. การสร้างความคุ้มครอง

การสร้างความคุ้มครองให้กับตัวเรา ในชีวิตประจำวันของเรา อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อไหร่ก็ได้ เช่นอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย ดังนั้น ประกันพื้นฐานที่เราควรจะมีก็คือ ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุ คนที่มีครอบครัวมีภรรยา, สามี, ลูก และคนที่เรารัก ประกันตัวต่อไปที่เราควรจะต้องทำก็คือ ประกันแบบ Term life หรือประกันชั่วระยะเวลา และประกันแบบ Whole life หรือประกันแบบตลอดชีพ เพื่อสร้างความคุ้มครองในวันที่เราไม่อยู่ ให้คนที่เรารักสามารถอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก

2. เรื่องของการ ช่วยบริหารทางการเงิน

นอกจากสร้างความคุ้มครองแล้ว การทำประกันยังสามารถสร้างวินัยทางการเงินที่ดีได้ เช่น การทำประกันประเภทสะสมทรัพย์ แต่สิ่งที่คนไทยชอบทำประกัน และใช้ประโยชน์จากมันมากที่สุดก็คือ การทำประกันเพื่อลดหย่อนภาษี จริงๆแล้วนอกจากเรื่องของการลดหย่อนภาษี เรื่องการสร้างวินัยทางการเงินแล้วนั้น การทำประกันสามารถส่งต่อมรดกได้ด้วย

การเลือกซื้อประกันสุขภาพ ให้เหมาะสมกับตัวเองต้องดูจุดไหนบ้าง

สามารถดูได้จากปัจจัย 4 ข้อด้วยกัน
1. ความคุ้มครองที่เรามีอยู่ เรามีอะไรอยู่แล้วบ้าง เช่น ถ้าหากเราเป็นพนักงานประจำ เราอาจจะมีประกันสังคม หรือมีสวัสดิการที่บริษัท ให้ความคุ้มครองอยู่แล้ว เราก็สามารถซื้อหรือเลือกซื้อประกันสุขภาพ ที่มีความคุ้มครองเพิ่มเติมจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว

2. เลือกดูจาก Lifestyle ของเราได้ เช่น เรามีการเดินทางไปต่างประเทศบ่อยไหม ถ้าหากเราเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เราก็ควรเลือกซื้อประกันสุขภาพ ที่มีอาณาเขตความคุ้มครองในต่างประเทศด้วย แต่หากเราไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ก็แนะนำให้ใช้ประกันเดินทางควบคู่กันไป ก็สามารถทำได้เช่นกัน

3. ปัจจัยในเรื่องของปีต่ออายุ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนไทยของเรามีชีวิตยาวนานขึ้น จากเมื่อก่อน เพราะฉะนั้น เรื่องของปีต่ออายุ จึงเป็นเรื่องสำคัญ เวลาเราเลือกประกันสุขภาพ เราควรจะพิจารณา เลือกประกันที่สามารถต่ออายุได้อย่างน้อยถึง 70-80 ปีเป็นต้นไป หรือถ้าหากสามารถต่ออายุได้นานกว่านั้น ก็จะยิ่งดี

4. ดูความสามารถในการชำระเบี้ยแต่ละปีของเราว่า ในแต่ละปี เรามี Budget หรือว่าเราสามารถกันเงิน ที่สามารถนำมาจ่าย ซื้อประกันสุขภาพได้ ปีละเท่าไหร่ ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวกำหนด แผนประกันสุขภาพที่เราเลือกได้ หรือเป็นตัวกำหนดผลประโยชน์สูงสุดในการทำประกันสุขภาพที่เราเลือกซื้อได้เช่นกัน

ฟังเนื้อหาเต็มๆได้ที่  TISCO Advisory : talk with Guru – YouTube

สำหรับท่านใดที่สนใจประกันสุขภาพ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-633-6060 หรือแอดไลน์สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@tiscoinsure นะครับ

ผลิตภัณฑ์ประกันแนะนำ

ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Easy Health

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 9,378 บาท ต่อปี

• คุ้มครองสูงสุด: 5,000,000 บาท/ปี
• ผู้ป่วยใน: เหมาจ่ายตามจริง
• ผู้ป่วยนอก: –
• ค่าห้อง : ห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน

ดูรายละเอียด

ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Prestige

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 18,611 บาท ต่อปี

• คุ้มครองสูงสุด: 100,000,000 บาท/ปี
• ผู้ป่วยใน: เหมาจ่ายตามจริง
• ผู้ป่วยนอก: ซื้อเพิ่มได้
• ค่าห้องสูงสุด: 25,000 บาท

ดูรายละเอียด

ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ My Care Saver

ค่าเบี้ยเริ่มต้น 5,940 บาท ต่อปี

• คุ้มครองสูงสุด: 300,000 บาท/ปี
• ผู้ป่วยใน: ไม่เกิน 50,000 บาท/ต่อครั้ง
• ผู้ป่วยนอก: –
• ค่าห้องสูงสุด : ตามจริง

ดูรายละเอียด